แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 11
1
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/

https://www.noisecontrol365.com/album/banner/436f7c471a7669f110977c234346e19e.jpg

2
ขายรถไมล์น้อย Mazda CX-30 2.0 SP พร้อมฟรี ประกันชั้น 1, ฟิล์มกรองแสงเซรามิค

มาสด้า Mazda CX-30 2.0 SP ปี 2022
MAZDA CX-30 รุ่น 2.0 SP มาพร้อมเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 ลิตร มีดีไซน์ที่โดดเด่นเหนือระดับรวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและอุปกรณ์มาตรฐานด้านความปลอดภัยระดับพรีเมี่ยม อาทิ หลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า, ระบบเสียง BOSE® รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง , ระบบแสดงภาพ 360 องศารอบทิศทาง และระบบ i-Activsense มากถึง 11 ระบบ ยังคงเป็นรุ่นที่เน้นความสมบูรณ์แบบมอบความพรีเมี่ยมและความปลอดภัยเหนือกว่ารถในระดับเดียวกันมากที่สุด

หมายเหตุ : รายละเอียดของรถยนตอ์าจมีการเปลี่ยนแปลงภายหลัง

รถผู้บริหาร รถทดลองขับ ไมล์น้อย ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ

โปรโมชั่นพิเศษ
ตั้งแต่ 1 ธ.ค. - 31 ธ.ค. 2567
ติดต่อผ่านเช็คราคารับส่วนลดเพิ่ม 20,000 บาท
พร้อมฟรี ประกันชั้น 1, ฟิล์มกรองแสงเซรามิค

ราคาพิเศษ 999,000 บาท

สนใจสอบถามรายละเอียดกดลิ้ง https://www.checkraka.com/flashdeal/car

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์               Mazda
   รุ่น                    มาสด้า Mazda CX-30 2.0 SP ปี 2022
   ประเภทรถ           รถอเนกประสงค์ SUV
   ปีที่เปิดตัว           2022



3
งานมอเตอร์โชว์: เผยโฉม 2025 BMW X3 ดีไซน์ใหม่หมดจด เหลี่ยมสันมากขึ้น เข้าสู่ยุคใหม่อย่างเต็มตัว

2025 BMW X3 รหัสตัวถัง G45 เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการ มาพร้อมดีไซน์ใหม่หมดจดในภาษาของ BMW ยุคใหม่ ทั้งภายนอกและภายใน โดยเปิดตัวทั้งขุมพลังเบนซิน ดีเซล และ PHEV มาดูกันชัด ๆ ว่า ดีไซน์ที่ใหม่จนไม่เหลือเค้าเดิมแบบนี้จะถูกใจเราหรือไม่

  มิติตัวถัง 2025 BMW X3 (G45)

 ความยาว 4,755 มม.
ความกว้าง 1,920 มม.
ความสูง 1,660 มม.
ระยะฐานล้อ 2,865 มม.
เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม G01 พบว่ารุ่นใหม่ 2025 X3 ยาวขึ้น 34 มม. กว้างขึ้น 29 มม. เตี้ยลง 25 มม. และมีระยะฐานล้อเท่าเดิม

 ดีไซน์ที่มีทั้งคนชอบ และไม่ชอบ

 BMW X3 ใหม่มาพร้อมดีไซน์ที่เป็นข้อถกเถียงอีกครั้ง โดยเริ่มที่กระจังหน้าไตคู่ Kidney Grille แบบใหม่ที่มีไฟ LED ตัดขอบ ไปจนถึงดีไซน์ในภาพรวมของรถที่มีความเหลี่ยมสัน และโดดเด่นด้วยเส้นตั้งและเส้นเฉียงที่ตัดกัน ทำให้ดูแปลกตา

 โดยในรุ่น X3 30 จะมีกระจังหน้าไตคู่ที่ให้มีเส้นตรงตัดด้วยเส้นเฉียง ส่วนรุ่น X3 M50 จะเป็นเส้นแนวนอนสีดำ รวมถึงมีการตกแต่งด้วยสีดำรอบคัน ทั้งสองรุ่นจะแตกต่างกันอย่างชัดเจน

 สำหรับดีไซน์ด้านข้าง BMW ระบุว่า ต้องการออกแบบให่รูปลักษณ์โดยรวมดูใหญ่โต และลดทอนเส้นสายให้เหลือเพียง “สิ่งสำคัญ” ซุ้มล้อออกแบบให้รถมีความกว้างและสปอร์ตมากขึ้น ด้านท้ายมีส่วนเว้าเล็กน้อยทำให้ตัวรถโดดเด่นขึ้นมา ท่อไอเสียในรุ่น M50 จะเป็นท่อคู่ 4 ท่อแบบ M ส่วนรุ่นอื่น ๆ จะถูกซ่อนเอาไว้

 สำหรับสีสันภายนอกมีให้เลือกมากมาย อย่างของ X3 M50 ใหม่นั้นมาพร้อมกับสี Dune Grey metallic ส่วนล้ออัลลอยมีให้เลือกตั้งแต่ 18 ไปจนถึง 21 นิ้ว ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย นอกจากนี้ X3 รหัส G45 จะไม่มี “i” ต่อท้ายแล้วสำหรับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน

 ขุมพลังปรับปรุงใหม่หลายด้าน แต่แรงเท่าเดิม

 สำหรับ X3 ใหม่จะมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อหรือ xDrive มาให้ทุกรุ่น รวมถึงมีการออกแบบและมีการปรับปรุงใหม่หลายด้าน โดยมีขุมพลังใต้ฝากระโปรง ดังนี้

 X3 30e xDrive ขุมพลัง PHEV มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตรเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 184 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร เมื่อทั้งสองระบบทำงานร่วมกันจะให้กำลังสูงสุด 299 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร จับคู่แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 19.7 kWh รองรับการชาร์จ AC 11 kW ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.2 วินาที วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนระยะทางสูงสุด 81 - 90 กม. (WLTP)

 X3 20d xDrive มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตรเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 197 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับระบบ Mild Hybrid 48V ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.7 วินาที

 X3 20 xDrive มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตรเทอร์โบ ทำงานร่วมกับระบบ Mild Hybrid 48V ให้กำลังสูงสุด 208 แรงม้า แรงบิด 330 นิวตันเมตร มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.8 วินาที

  ส่วนรุ่นแรงสุด X3 M50 xDrive มาพร้อมเครื่องยนต์ 6 สูบเรียง 3.0 ลิตรเทอร์โบที่ปรับปรุงใหม่ ทำงานร่วมกับระบบ Mild Hybrid 48V กำลังสูงสุดเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็น 398 แรงม้า แรงบิด 580 นิวตันเมตร มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.6 วินาที เท่ากับรุ่นเดิม

 เครื่องยนต์ทั้งหมดจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด โดย BMW ระบุว่า X3 ใหม่ทั้งสองรุ่นจะได้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นและเพลาหลังที่กว้างขึ้น ขณะที่การเปลี่ยนแปลงเพลาหน้าและหลังยังเพิ่มความแม่นยำในการเลี้ยว รวมถึงทำให้การขับขี่ทางตรงดีขึ้นด้วย

 นอกจากนี้สเปคอเมริกาจะมี X3 30 xDrive มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตรเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 255 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับระบบ Mild Hybrid 48V สามารถทำอัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ภายใน 6 วินาที

 สำหรับช่วงล่างจะมีออพชัน M Sport suspension ประกอบด้วย sport steering และเบรค M Sport รวมถึงยังสามารถเสริมออพชันในระบบ Dynamic Damper Control ที่ให้ช่วงล่างแบบ adaptive ที่มีความนุ่มนวลกว่าได้ต่างหาก ส่วนรุ่น X3 M50 xDrive จะมีช่วงล่าง M Sport suspension มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน รวมถึงมีพวงมาลัยแบบสปอร์ตแปรผัน, เบรค M Sport, ล้ออัลลอย 20 นิ้ว และเฟืองท้าย M Sport differential มาให้ด้วย

  ภายในแบบมินิมอล แต่โฉบเฉี่ยว

 สำหรับภายในของ X3 ใหม่มีดีไซน์แบบ BMW ยุคใหม่ คล้ายกับรุ่นพี่อย่าง iX อยู่ไม่น้อย ไฟ Ambient Light ในห้องโดยสารดูล้ำสมัย โดยเฉพาะรุ่น M50 เส้นสายต่าง ๆ มีความตัดกันออกมาเป็นรูปร่างที่ดูแปลกตา แต่ด้วยเส้นแนวนอนที่ยาวของแดชบอร์ดและการลดทอนปุ่มกดต่าง ๆ ทำให้ดูมินิมอล ให้ความสะอาดตา

 เช่นเดียวกับ BMW ยุคใหม่คันอื่น ๆ X3 ใหม่ก็มีจอโค้ง BMW Curved Display ด้วยเช่นกัน มาพร้อมระบบปฏิบัติการล่าสุด BMW Operating System 9 พร้อมระบบ QuickSelect ยังควบคุมด้วยปุ่ม iDrive กลางคอนโซล รวมถึงพวงมาลัยท้ายตัดแบบ 5 และ 7 Series นอกจากนี้ยังมีวัสดุใหม่เป็นโพลีเอสเตอร์รีไซเคิลที่ถักทอกันบนแผงหน้าปัดซึ่งเป็นครั้งแรกของวัสดุนี้ใน BMW

 ส่วนระบบ ADAS มีให้อย่างครบครันมากขึ้นสำหรับ 2025 X3 เช่น ระบบช่วยจอด Parking Assistant ใหม่ที่สามารถควบคุมจากนอกรถได้แล้วที่ความเร็วต่ำกว่า 65 กม.ชม., ระบบ Traffic Jam Assistant ที่ไม่ต้องจับพวงมาลัยแล้วและทำได้นานขึ้น รวมถึงระบบนำทางใหม่ที่จะให้ข้อมูลได้ดีขึ้นและมี AR ช่วยเพิ่มความสะดวกในการนำทาง

 X3 ใหม่ยังมีเทคโนโลยีอื่น ๆ ภายใต้ BMW Digital Premium เช่น รองรับ AirConsole สามารถเล่นเกมได้เมื่อจอดรถ, รองรับแอพ DTS AutoStage Video Service เพื่อสตรีมมิ่งรายการไลฟ์และรายการที่ต้องการได้, ระบบสั่งงานด้วยเสียงที่ปรับปรุงใหม่ รวมถึง “My Modes” ที่ลูกค้าสามารถซื้อเพิ่มได้นอกเหนือจากโหมด Personal, Sport และ Efficient ที่มีอยู่แล้ว ได้แก่ Expressive Mode, Relax Mode, Digital Art Mode, และโหมดใหม่ล่าสุด Silent Mode

  เริ่ม 1.8 ล้านบาทในสหรัฐฯ

 สำหรับ 2025 BMW X3 ในสหรัฐฯ จะเริ่มการผลิตภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ส่วนรุ่นไฟฟ้าล้วน iX3 (ที่ใช้แพลทฟอร์มแยกกัน) จะมีการเปิดตัวตามมาในปีหน้า ส่วนในบ้านเรา หากมีข้อมูลใด ๆ เพิ่มเติม เราจะนำมารายงานให้ได้ทราบกัน

4
หมอประจำบ้าน: ยาที่ห้ามกินก่อนฉีดวัคซีนโควิดมีไหม เช็กให้ชัวร์ ยาอะไรกิน

การเตรียมตัวก่อนฉีดวัคซีนโควิด 19 นอกจากต้องรักษาสุขภาพร่างกาย พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ตัวเองพร้อมฉีดวัคซีนแล้ว อีกเรื่องที่หลายคนค่อนข้างกังวลก็คือ ไม่แน่ใจว่าควรหยุดยาประเภทไหนก่อนฉีดวัคซีนโควิดหรือเปล่า เพราะก่อนหน้านี้มีหลายกระแสออกมา บ้างก็ว่าห้ามกินยาชนิดนี้ ควรงดยาชนิดนั้น แต่ภายหลังสถาบันที่เกี่ยวกับการแพทย์ของโรคนั้น ๆ ก็ออกมาชี้แจงว่า ผู้ป่วยไม่ควรหยุดยาเอง

          เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน เราเลยรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ยาประเภทต่าง ๆ ที่สถาบันทางการแพทย์แนะนำไว้มาแจกแจงให้เข้าใจกันค่ะ ว่าจำเป็นไหมจะต้องหยุดยาก่อนฉีดวัคซีนโควิด

          ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ให้คำแนะนำว่า ผู้ที่ใช้ยาคุมกำเนิดชนิดที่มีเอสโตรเจนเป็นส่วนประกอบ ได้แก่ ยาเม็ดชนิดฮอร์โมนรวม ยาฉีดคุมกำเนิด และแผ่นยาปิดผิวหนังคุมกำเนิด สามารถรับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ได้โดยไม่จำเป็นต้องหยุดการใช้ เพราะจากการศึกษาวิจัยทั่วโลกไม่พบว่าการฉีดวัคซีนจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดหลอดเลือดดำอุดตันแต่อย่างใด แต่หากยังมีความกังวลใจ และต้องการหยุดการใช้ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมน ควรใช้วิธีการคุมกำเนิดอื่น ๆ มาทดแทนเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์

          ขณะที่ นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ระบุว่า การใช้ยาคุมหรือยาคุมฉุกเฉินไม่ได้เป็นข้อห้ามในการฉีดวัคซีนโควิด ไม่ได้หมายความว่าไม่ให้ใช้ แต่เนื่องจากฮอร์โมนดังกล่าวมีผลทำให้เลือดข้นอยู่บ้างแล้ว ถ้าจะเกิดผลข้างเคียงจากวัคซีนจะได้ไม่เกิดปัจจัยซ้ำซ้อนขึ้นไปอีก ดังนั้นถ้าเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง 14 วัน ก่อนวัคซีน และ 14 วัน หลังวัคซีน ระหว่างนั้นให้คุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นไปก่อน

ยาเบาหวาน ยาลดไขมันในเลือด ยาโรคหัวใจ กินได้ไหม

          ผู้ป่วยที่ต้องกินยารักษาโรคประจำตัว 7 โรคเรื้อรังที่มีอาการคงที่ ไม่ว่าจะเป็นโรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง, โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคไตวายเรื้อรัง, โรคหลอดเลือดสมอง, โรคมะเร็ง, โรคเบาหวาน และโรคอ้วน สามารถกินยาได้ตามปกติก่อนเข้ารับวัคซีน
ฉีดวัคซีนโควิด ยาความดัน กินได้ไหม

          สามารถกินยาลดความดันโลหิตและยาประจำตัวอื่น ๆ ได้ตามปกติ ไม่ควรหยุดยาเองหรือปรับยาเพื่อฉีดวัคซีน เว้นแต่กรณีที่แพทย์แนะนำให้หยุดยาชั่วคราว เพื่อให้ผลลัพธ์ของวัคซีนแม่นยำขึ้น และควรควบคุมความดันโลหิตให้ดีก่อนฉีดวัคซีน

ฉีดวัคซีนโควิด ยาละลายลิ่มเลือด ยาต้านเกล็ดเลือด กินได้ไหม

          ยาละลายลิ่มเลือด หรืออาจเรียกว่า ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ซึ่งใช้สำหรับรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาลิ่มเลือดอุดตัน โรคหลอดเลือดหัวใจ หรือคนที่มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ เลือดออกง่าย สามารถรับประทานยาได้ตามปกติ คือ

          1. ยาวาร์ฟาริน (Warfarin) กินได้ และต้องมีระดับ INR หรือค่าความแข็งตัวของเลือดน้อยกว่า 4 ภายใน 1 สัปดาห์ก่อนฉีดวัคซีน จึงฉีดวัคซีนโควิดได้ หรือหากไม่มีผล INR แต่ระดับ INR ก่อนหน้านี้อยู่ในระดับ 2-3 มาโดยตลอด ก็สามารถฉีดวัคซีนได้ โดยไม่จำเป็นต้องหยุดหรือปรับขนาดยา

          2. ยาต้านเกล็ดเลือด เช่น แอสไพริน (Aspirin), โคลพิโดเกรล (Clopidogrel), ซิลอสทาซอล (Cilostazol) กินได้ และสามารถฉีดวัคซีนได้ แต่ไม่ควรคลึงกล้ามเนื้อหลังฉีดวัคซีน

          3. ยาต้านการแข็งตัวของเลือดกลุ่มใหม่ (NOACs) เช่น ดาร์บิการ์แทน (Dabigatan), ไรวาร็อกซาแบน (Rivaroxaban), อพิซาแบน (Apixaban), อีด็อกซาแบน (Edoxaban) รับประทานได้ โดยมีคำแนะนำเพิ่มเติมคือ

    ถ้าปกติกินยาวันละ 1 ครั้ง ตอนเช้า : แนะนำให้ฉีดวัคซีนช่วงบ่าย แต่ถ้าฉีดวัคซีนช่วงเช้า ให้งดยามื้อเช้า และกินยาหลังฉีดวัคซีนไปแล้วอย่างน้อย 6 ชั่วโมง
    ถ้าปกติกินยาวันละ 1 ครั้ง ตอนเย็น : แนะนำให้กินยาหลังฉีดวัคซีนไปแล้วอย่างน้อย 6 ชั่วโมง
    ถ้าปกติกินยาวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น : แนะนำให้ฉีดวัคซีนช่วงบ่าย โดยไม่ต้องงดยา แต่ถ้าฉีดวัคซีนช่วงเช้า แนะนำให้งดยามื้อเช้าและกินยามื้อเย็นตามปกติ

          ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่กินยาละลายลิ่มเลือดทุกชนิด ก่อนฉีดวัคซีนโควิดควรแจ้งแพทย์ที่จุดฉีดวัคซีนให้ทราบด้วยนะคะ เพราะจะต้องกดตำแหน่งที่ฉีดยาให้นานกว่าปกติจนกว่าจะแน่ใจว่าไม่มีเลือดออกผิดปกติ
ฉีดวัคซีนโควิด ยาไมเกรนต้องงดหรือเปล่า

          สมาคมประสาทวิทยาแห่งประเทศไทย ระบุว่า ผู้ป่วยโรคปวดศีรษะไมเกรนไม่จำเป็นต้องหยุดยาแก้ปวดศีรษะไมเกรน เพราะอาจทำให้อาการกำเริบได้ จึงสามารถรับประทานยาเหล่านี้ได้ตามปกติ

          ยาแก้ปวดศีรษะไมเกรนชนิดต่าง ๆ ได้แก่

    ยากลุ่ม Acetaminophen เช่น พาราเซตามอล
    ยากลุ่ม NSAIDs เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน
    ยาที่มีส่วนผสมของ Ergotamine และคาเฟอีน เช่น Cafergot, Tofago
    ยาในกลุ่มทริปแทน เช่น Relpax, Siagran

          ยาป้องกันไมเกรนชนิดต่าง ๆ ได้แก่

    ยาในกลุ่มยากันชัก เช่น Topiramate, Valproic acid
    ยาในกลุ่มยาต้านเศร้า เช่น Amitriptyline, Venlafaxine
    ยาในกลุ่มต้านแคลเซียม เช่น Flunarizine
    ยาในกลุ่มต้านเบต้า เช่น Propranolol
    ยาป้องกันไมเกรนชนิดอื่น ๆ ที่ผู้ป่วยรับประทานอยู่เป็นประจำ

          อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่กังวลใจ และต้องการหยุดยาแก้ปวดไมเกรนหรือยาป้องกันไมเกรน ให้ปรึกษาแพทย์ที่รักษา เพื่อวางแผนในการฉีดวัคซีนโควิด และแนะนำอาการของโรคปวดศีรษะไมเกรนที่อาจจะเกิดขึ้น

กินยาไมเกรน ฉีดวัคซีนโควิด 19 ได้ไหม หรือต้องหยุดยาก่อน-หลังฉีด

          ก่อนฉีดวัคซีนโควิด ต้องงดยาแก้ปวด ยาลดไข้ เช่น พาราเซตามอล เพราะยาอาจไปกดภาวะการอักเสบ จนบดบังการตอบสนองของวัคซีน นอกจากนี้หากมีอาการไม่สบายหลังฉีดวัคซีน อาจทำให้เกิดความสับสนได้ว่าเป็นอาการแพ้วัคซีนหรือเป็นอาการป่วยที่เป็นอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้น ถ้ามีอาการป่วย เป็นไข้ ควรเลื่อนการฉีดวัคซีนออกไปก่อน 2 สัปดาห์

          แต่หลังฉีดวัคซีน ถ้ามีไข้สามารถกินยาพาราเซตามอล 500 มิลลิกรัม 1 เม็ด (เช่น ยี่ห้อไทลินอล, ซาร่า, พาราแคพ, บาคามอล, ซีมอล, พานาดอล, เทมปร้า) ซึ่งเป็นยาลดไข้ที่ปลอดภัยที่สุด หากไม่หายสามารถกินซ้ำได้โดยห่างจากเม็ดแรก 4-6 ชั่วโมง ส่วนยาแก้ปวดในกลุ่ม NSAIDs เช่น ไอบูโพรเฟน, นาโปรเซน, เซเลโคซิบ, ไดโคลฟีแนค, ไพร็อกซิแคม เป็นต้น หากไม่จำเป็นควรหลีกเลี่ยง หรือปรึกษาเภสัชกรก่อนรับประทาน

           ยาคลายกล้ามเนื้อ เช่น มายโดคาล์ม (Mydocalm), นอร์จีสิก (Norgesic) สามารถรับประทานได้
          เพราะยาลดน้ำมูก ยาแก้หวัดคัดจมูก กลุ่มที่มีฤทธ์ทางระบบประสาทอัตโนมัติ (Sympathomimetic) เช่น Pseudoephedrine มีผลทำให้หลอดเลือดแดงหดตัวได้ ดังนั้น จึงมีคำแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้ยากลุ่มนี้ในวันที่ฉีดวัคซีน และ 14 วัน หลังจากนั้น ซึ่งเป็นระยะเวลาที่อาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม หากเป็นผู้ป่วยที่จำเป็นต้องรับประทานอยู่เป็นประจำควรปรึกษาแพทย์ก่อน

          คนที่เป็นภูมิแพ้และใช้ยาต้านฮิสตามีน หรือยาแก้แพ้ มาอย่างต่อเนื่อง สามารถกินยาได้ตามปกติ ไม่ควรลดหรือหยุดยาก่อนมาฉีดวัคซีน เพราะอาจทำให้โรคกำเริบและมีอาการคล้ายแพ้วัคซีนได้

          แต่ถ้าไม่ได้เป็นคนใช้ยาฮิสตามีนอย่างต่อเนื่อง ไม่แนะนำให้กินยาก่อนฉีดวัคซีนโควิด เพื่อป้องกันการแพ้วัคซีน เพราะไม่สามารถป้องกันอาการแพ้รุนแรงได้ และอาจบดบังอาการแพ้ทางผิวหนังที่เกิดขึ้น
          ยานอนหลับ ยาคลายวิตกกังวล สามารถกินได้ตามปกติ
          ราชวิทยาลัยจิตแพทย์แห่งประเทศไทย แนะนำให้ผู้ป่วยจิตเวชรับประทานยาต่อเนื่อง ซึ่งยาจิตเวชส่วนใหญ่ปลอดภัยต่อวัคซีน (ข้อมูล ณ วันที่ 28 พฤษภาคม 2564) ดังนั้น ไม่ควรลดยา เพิ่มยา หรือปรับยาเอง เพราะอาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงหรือถอนยาได้ แต่หากผู้ป่วยหรือญาติกังวลใจ อาจพูดคุยปรึกษาแพทย์เจ้าของไข้เรื่องการฉีดวัคซีน

          ผู้ป่วยโรคหืดสามารถฉีดวัคซีนโควิด 19 ได้ โดยสมาคมโรคภูมิแพ้ โรคหืด และวิทยาภูมิคุ้มกันแห่งประเทศไทย ให้คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องการใช้ยาไว้ดังนี้ค่ะ

    ควรใช้ยาสูดสเตียรอยด์และยาประจำตัวโรคหืดอย่างสม่ำเสมอ ไม่จำเป็นต้องหยุดยาก่อนฉีดวัคซีน เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานว่ายาสูดสเตียรอยด์มีผลต่อการสร้างภูมิคุ้มกันที่กระตุ้นจากการฉีดวัคซีน

         ผู้ป่วยโรคหืดที่มีอาการกำเริบจนต้องใช้ยาสเตียรอยด์ชนิดรับประทานหรือฉีด ควรควบคุมอาการให้สงบก่อนฉีดวัคซีน

         ผู้ป่วยโรคหืดที่ได้รับยาชีวโมเลกุล เช่น Omalizumab, Benralizumab, Dupilumab ควรรออย่างน้อย 7 วัน หลังได้รับยา จึงค่อยฉีดวัคซีนโควิด

          ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย และสมาคมรูมาติสซั่มแห่งประเทศไทย ให้ข้อมูลไว้ว่า กรณีผู้ป่วยที่โรคสงบ สามารถฉีดวัคซีนโควิด 19 ได้ โดยมีข้อแนะนำเรื่องการหยุดยา หรือไม่หยุดยาชั่วคราว ดังนี้

    ผู้ป่วยมีอาการคงที่และกินยา Hydroxychloroquine, Chloroquine, Prednisolone น้อยกว่า 20 มิลลิกรัม/วัน หรือเทียบเท่า สามารถฉีดวัคซีนโควิดได้โดยไม่ต้องหยุดยาดังกล่าว แต่ถ้ากินยามากกว่า 20 มิลลิกรัม/วัน ติดต่อกันนานเกิน 1 เดือนขึ้นไป แต่อาการของโรคคงที่และอยู่ในช่วงปรับลดยา สามารถฉีดวัคซีนได้ แต่การตอบสนองต่อวัคซีนอาจจะลดลง

         ผู้ที่กินยา Methotrexate, Cyclophosphamide, Azathioprine, Ciclosporin, Mycophenolate และสามารถควบคุมอาการได้ดีเพียงพอที่จะหยุดยาได้ชั่วคราวโดยโรคไม่กำเริบ แนะนำให้หยุดยา 1-2 สัปดาห์ หลังฉีดวัคซีน

         ผู้ที่ได้รับยาฉีด Cyclophosphamide ควรฉีดวัคซีนโควิดไปแล้วอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ก่อนรับยา Cyclophosphamide

         ผู้ที่ได้รับยาฉีด Rituximab แนะนำให้ฉีดวัคซีนครั้งแรกอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ก่อนได้รับยา Rituximab หรือถ้ารับยา Rituximab ไปแล้ว ให้รออย่างน้อย 1 เดือน จึงค่อยฉีดวัคซีนโควิด

         ผู้ที่ได้รับยาฉีด Dupilumab ร่วมด้วย ควรฉีดวัคซีนโควิดไปแล้วอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ก่อนหรือหลังได้รับยา Dupilumab

         ผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินที่มีอาการคงที่และได้รับยาอย่างใดอย่างหนึ่ง ได้แก่ Acitretin, Etanercept, Infliximab, Adalimumab, Ustekinumab, Secukinumab, Ixekizumab, Brodalumab, Guselkumab สามารถฉีดวัคซีนโควิด 19 ได้ โดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนการรับยากดภูมิ

น้ำมันกัญชาใช้ได้ไหม ก่อนฉีดวัคซีนโควิด
          ผู้ป่วยที่ใช้น้ำมันกัญชาทางการแพทย์ เช่น สูตรตำรับของอาจารย์เดชา เพื่อบรรเทาอาการเจ็บป่วยและคุณภาพชีวิต สามารถใช้ต่อได้ ไม่ต้องหยุด และไม่ต้องเพิ่มปริมาณ

ก่อน-หลังฉีดวัคซีน ไปทำฟันใช้ยาชาได้หรือไม่

ยาชาที่ใช้ทางทันตกรรมไม่มีผลต่อภูมิคุ้มกันทั้งก่อนและหลังการรับวัคซีนโควิด 19 ในปริมาณยาชาที่เหมาะสมและถูกต้อง ดังนั้นผู้ที่เข้ารับการรักษาทางทันตกรรม สามารถรับการฉีดยาชา เพื่อทำหัตถการทางทันตกรรมได้อย่างปลอดภัย

          - กรณีการทำฟันที่ไม่เร่งด่วน ควรเข้ารับการรักษาก่อนฉีดวัคซีนหรือภายหลังฉีดวัคซีนโควิด 2-3 วัน แต่ไม่เกิน 1 สัปดาห์ เพื่อลดความคลาดเคลื่อนในการวินิจฉัยแยกโรค เช่น ภาวะไข้ ว่ามีอาการข้างเคียงจากการรักษาทางทันตกรรม หรืออาการข้างเคียงจากวัคซีน

          - กรณีมีอาการฉุกเฉินเร่งด่วนทางทันตกรรม สามารถขอคำแนะนำและรับคำปรึกษา รวมถึงประเมินอาการจากทันตแพทย์ได้ตามแนวทางบริการทางทันตกรรมวิถีใหม่ New Normal Dental Services

สรุปฉีดวัคซีนโควิด ยาอะไรกินได้

    ยารักษาโรคประจำตัว เช่น ยาเบาหวาน ยาความดัน ยารักษาโรคหัวใจ ยาลดไขมันในเลือด ฯลฯ
    ยาคุมกำเนิด (แต่หากผู้ที่ใช้ยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนมีความกังวลสามารถหยุดกินได้ และเปลี่ยนไปใช้วิธีคุมกำเนิดแบบอื่นแทนไปก่อน)
    ยาละลายลิ่มเลือด ยาต้านเกล็ดเลือด
    ยาแก้ปวดไมเกรน หรือยาป้องกันไมเกรน
    ยาคลายกล้ามเนื้อ
    ยาแก้แพ้ (กินได้ในผู้ป่วยที่กินยาแก้แพ้มาอย่างต่อเนื่อง)
    ยานอนหลับ ยาคลายเครียด ยาคลายกังวล
    ยาจิตเวช (ไม่ควรลดยา เพิ่มยา หรือปรับยาเอง หากกังวลให้ปรึกษาแพทย์)
    ยาสูดสเตียรอยด์ ยาพ่นโรคหืด
    ยาปรับภูมิคุ้มกัน Hydroxychloroquine, Chloroquine, Prednisolone
    น้ำมันกัญชา (สำหรับผู้ป่วยใช้ต่อได้โดยไม่ต้องเพิ่มปริมาณ)

สรุปยาที่ไม่ควรกิน หรือปรึกษาแพทย์ก่อน

    ยาแก้ปวด ลดไข้ (ไม่ควรกินดักไว้ก่อนฉีดวัคซีน เพราะไม่เกิดประโยชน์)
    ยาลดน้ำมูก ยาแก้คัดจมูก กลุ่มที่มีฤทธ์ทางระบบประสาทอัตโนมัติ  (ถ้าไม่จำเป็นควรงดการใช้ยาก่อน)
    ยาต้านฮิสตามีน ยาแก้แพ้ (ในคนที่ไม่ได้ใช้ยาอย่างต่อเนื่อง ไม่ควรกินเพื่อหวังผลป้องกันภาวะแพ้วัคซีน)
    ยากดภูมิคุ้มกัน (บางชนิดกินได้ บางชนิดต้องหยุดก่อนหรือหลังฉีดวัคซีนตามคำแนะนำ หากไม่แน่ใจให้ปรึกษาแพทย์ เนื่องจากผู้ป่วยแต่ละคนมีอาการไม่เหมือนกัน)
    ยาแอสไพริน (หากไม่ใช่ผู้ป่วยโรคประจำตัวที่ต้องกินยาแอสไพรินอยู่แล้ว คนทั่วไปไม่ควรกินเพื่อหวังผลป้องกันการเกิดลิ่มเลือด เนื่องจากไม่สามารถป้องกันได้ และอาจทำให้เลือดออกในร่างกายได้อีก)


5
เที่ยววัดสวย นครนายก ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ ไปไหว้พระ เสริมดวงกัน!

วันนี้ตามเราไปเที่ยวใกล้ๆ กรุงเทพ กัน เพราะ ที่เที่ยวนครนายก นั้น เป็นหนึ่งในพิกัดที่ไม่ควรพลาด ไปง่าย เที่ยวสบายๆ อย่าง วัดสวย เอง ที่จังหวัดนี้ก็มีไม่น้อยเลยจริงๆ เราก็เลยรวบรวม 15 วัดสวย นครนายก เอาใจสายบุญ เที่ยวใกล้กรุงเทพ กันค่า

รวมพิกัด วัดสวย นครนายก เอาใจสายบุญ เที่ยวใกล้กรุงเทพ

 1. วัดจุฬาภรณ์วนาราม

วัดจุฬาภรณ์วนาราม เป็นวัดที่สร้างขึ้นในโอกาสที่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงพระชนมายุ 50 พรรษา ในปี พ.ศ. 2550 และได้พระราชทานนามวัดนี้ว่า “วัดจุฬาภรณ์วนาราม” นั่นเองค่ะ พร้อมกับพระราชทานตราสัญลักษณ์ จภ เป็นตราประจำวัดอีกด้วยค่ะ

แต่สิ่งที่ทำให้วัดแห่งนี้มีชื่อเสียงมากมายขนาดนี้ ก็เพราะ อุโมงค์ป่าไผ่ ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติทางด้านหน้าของวัดนั่นเองค่ะ เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คของการถ่ายรูปใกล้กรุงเทพฯ เลย มองแล้วนึกว่าอยู่เกียวโต ประเทศญี่ปุ่นแบบนั้นเลยค่ะ นอกจากจะมาไหว้พระแล้ว ก็ยังได้รูปสวยๆ ฟีลญี่ปุ่นกลับไปอีกด้วยนะคะ

    ที่อยู่ : ตำบลบ้านพริก อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก
    เปิดให้เข้าชม : 07.00-18.00 น.
    โทร : 08-0011-3791

 2. วัดมณีวงศ์

วัดเก่าแก่อีกวัดหนึ่งของ จังหวัดนครนายก วัดมณีวงศ์ ที่มีอายุกว่า 100 ปีเลยทีเดียวค่ะ ภายในวัดจะค่อนข้างร่มรื่น สงบ โดยจะมี หลวงพ่อพระปางป่าเลไลย์ และ หลวงพ่อสิวะลี ที่พุทธศาสนิกชนให้ความเคารพบูชา และมากราบไหว้ขอพรกันค่ะ แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้วัดแห่งนี้มีชื่อเสียงขึ้นมาก็คือ ความวิจิตรตระการตาของศิลปะภายในวัดที่จะโดดเด่นด้วยลวดลายแกะสลัก และมีสีสันสดใสสวยงามมากๆ

ยังไม่หมดเพียงแค่นั้นค่ะ เพราะ วัดมณีวงศ์ ยังมี มีสถานปฏิบัติธรรม วังรัตนมณีมหานครบาดาลนาคราช หรือ ถ้ำพญานาค โดยภายในจะมี พระรัตนมณีมหาบาดาล ให้ได้กราบสักการะกันด้วยค่ะ ถือว่าที่นี่คือถ้ำพญานาคเมืองบาดาลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเลยนะคะ

    ที่อยู่ : หมู่ที่ 2 ตำบลดงละคร อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก
    เปิดให้เข้าชม : 07.00-18.00 น.

 3. วัดพราหมณี หลวงพ่อปากแดง

วัดพราหมณี วัดเก่าแก่ในสมัยรัชกาลที่ 5 อายุกว่า 100 ปีมาแล้ว ถือว่าเป็นวัดเก่าแก่ของจังหวัดนครนายกเลยทีเดียวค่ะ แต่สิ่งที่ทำให้วัดนี้มีชื่อเสียงขึ้นมาก็เพราะมี หลวงพ่อปากแดง พระประธานศักดิ์สิทธิ์ภายในพระอุโบสถนั่นเองค่ะ ถือว่าเป็นที่เคารพนับถือกันอย่างกว้างขวางเลย สาเหตุที่หลวงพ่อมีชื่อว่า หลวงพ่อปากแดงนั้น เพราะที่ปากของหลวงพ่อมีสีแดงสด เหมือนมีผู้นำลิปสติกไปทาไว้ ชาวบ้านเลยพากันเรียกว่า หลวงพ่อปากแดง นั่นเอง ว่ากันว่า หลวงพ่อปากแดง จะช่วยให้ผู้ที่มากราบไหว้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ต้องการค่ะ

    ที่อยู่ : หมู่ที่ 5 บ้านใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก
    เปิดให้เข้าชม : 07.00-18.00 น.

 4. วัดป่ากระทุ่ม

วัดป่ากระทุ่ม เป็นวัดที่มีโบสถ์เก่าแก่กว่า 200 ปี เอกลักษณ์จะอยู่ตรงที่มีรากของต้นโพธ์เลื้อยไปรอบๆ ตัวโบสถ์ และคอยยึดเกาะไม่ให้โบสถ์พังทลายลง ที่สำคัญคือตั้งอยู่ที่กลางทุ่งนา ริมคลองบ้านวังต้น โดยทั้งวัดจะหลงเหลือแค่เพียงซากอุโบสถกลางน้ำเท่านั้นค่ะ ซึ่งในปัจจุบัน ก็ได้กลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดนครนายกนั่นเองค่ะ

    ที่อยู่ : ตำบลพรหมณี อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.

 5. วัดคีรีวัน

วัดคีรีวัน เป็นวัดสวย ในสไตล์ศิลปะแบบขอม ที่ตกแต่งอย่างสวยงามไปทั่วทั้งวัดเลยทีเดียว แต่สิ่งที่โดดเด่นของวัดนี้ นอกจากการตกแต่งในแนวขอมแล้ว ก็คือ พระแก้วมรกตองค์จำลอง ที่ตกแต่งด้วยเพชรแท้ 7 กะรัต พลอยแท้และทับทิมเป็นจำนวนมาก และยังเป็น พระแก้วมรกตองค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เลยก็ว่าได้ค่ะ

นอกจากนี้ ภายในวัดก็ยังมีทั้ง ปราสาทขอมองค์ใหญ่ ทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ เศียรพระพุทธรูป รวมไปถึงปูนปั้นของเทพต่างๆ ทั้งแบบจีน แบบพราหมณ์ และ พระอุโบสถแบบวัดไทย อีกด้วยค่ะ เป็นการผสมผสานความงดงามในความเชื่อแบบต่างๆ ได้อย่างลงตัวมากๆ เลยค่ะ

    ที่อยู่ : ตำบลศรีนาวา อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-16.30 น.

6. วัดเลขธรรมกิตติ์

วัดเลขธรรมกิตติ์ แห่งนี้ เป็นวัดเก่าแก่ปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา มีโบสถ์เก่าอายุมากกว่าร้อยปี ที่เหลือไว้เพียงแค่ผนังบางส่วนและซุ้มประตูวัดเท่านั้น ซึ่งก็ถูกปกคลุมไปด้วยรากของต้นโพธิ์ จนทำให้ที่นี่กลายเป็นสถาปัตยกรรมจากธรรมชาติที่สวยงดงามขึ้นมานั่นเองค่ะ

โดยบริเวณกลางโบสถ์ นั้น จะมีศาลาขนาดเล็กๆ ประดิษฐานพระพุทธรูปเอาไว้ ให้ได้ไปกราบไหว้กันค่ะ และถ้าได้เดินเที่ยวทั่วทั้งวัดแล้ว จะเห็นประตูวัดอีกฝั่งที่จะถูกปกคลุมด้วยรากของต้นโพธิ์ด้วยเหมือนกัน เป็นเหมือนประตูแห่งกาลเวลาแบบที่พอเดินผ่านเข้าไปก็จะได้ย้อนไปในอดีตอะไรแบบนั้นเลย ใครที่เป็นสายบุญ แต่ก็ชอบถ่ายรูปด้วย น่าจะต้องถูกใจกันอย่างแน่นอนค่ะ

    ที่อยู่ : หมู่14 ตําบลบางอ้อ อําเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.

 7. พุทธอุทยานมาฆบูชาอนุสรณ์

 สถานที่ท่องเที่ยวทางพุทธศาสนา ที่โด่งดังของ นครนายก นั้น คงจะหนีไม่พ้น พุทธอุทยานมาฆบูชาอนุสรณ์ อย่างแน่นอน โดยที่นี่จะเต็มไปด้วยพระพุทธรูปมากมาย โดยมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่หนึ่งรูป ที่แสดงโอวาทปาติโมกข์ และมีพระพุทธรูปรอบๆ อีกกว่า 1,250 องค์ รวมทั้งรูปปั้นพระอสีติมหาสาวกจำนวน 80 รูป ซึ่งทั้งหมดนี้แสดงถึงเหตุการณ์สำคัญ อย่าง วันมาฆบูชา นั่นเองค่ะ

โดยภายในบริเวณนี้ ก็ยังมีทั้ง ศาลาปฏิบัติธรรม ให้เราสามารถมานั่งสมาธิ ในบรรยากาศที่เงียบสงบได้อีกด้วยค่ะ ใครที่แวะเวียนมาไหว้พระที่ จังหวัดนครนายก ก็อย่าลืมมากราบไหว้พระกันที่นี่นะคะ เพราะถือได้ว่าเป็นอนุสรณ์หนึ่งเดียวของไทย และหนึ่งเดียวในโลกที่ไม่มีที่ไหนเหมือนอย่างแน่นอนค่ะ

    ที่อยู่ : ตำบลสาริกา อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก
    เปิดให้เข้าชม : 06.00-18.00 น.

8. อุทยานพระพิฆเนศ

อุทยานพระพิฆเนศ นครนายก แห่งนี้ เกิดขึ้นมาจาก พระราชพิพัมน์โกศล หรือ หลวงพ่อเณร เจ้าอาวาสวัดศรีสุดารามวรวิหาร ที่มีความเคารพนับถือในองค์พระพิฆเนศ เลยมีการสร้าง อุทยานพระพิฆเนศ ในรูปปูนปั้นองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยขึ้นมานั่นเองค่ะ โดยมีขนาดหน้าตักกว้าง 9 เมตร สูง 15 เมตร เป็นพระพิฆเนศปางนั่งประทานพร หรือที่เรียกว่า ปางคณบดี และ ปางไสยาสประทานพร ค่ะ รวมถึงที่นี่ยังเป็นสถานที่ไว้สำหรับปฏิบัติธรรมอีกด้วยนะคะ

    ที่อยู่ : สี่แยกประชาเกษม หมู่ 11 ถนนนครนายก-น้ำตกสาริกา ตำบลสาริกา อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก
    เปิดให้เขาชม : 06.00-18.00 น.

 9. วัดศรีกะอาง

วัดศรีกะอาง เป็นวัดที่ประดิษฐาน พระพุทธชินราชจำลององค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีขนาดหน้าตักกว้าง 18 เมตร สูง 30 เมตร อยู่บนยอดเขาสูงกว่า 150 เมตร เลยทีเดียวค่ะ อีกทั้งบริเวณด้านหน้าองค์พระยังมีกระถางธูปที่ทำจากสเตนเลสขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอีกด้วยค่ะ ถือได้ว่าเป็นสถานที่ที่รวมที่สุดของประเทศไทยเอาไว้เลยค่ะ

    ที่อยู่ : ตำบลศรีกะอาง อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก
    เปิดให้เข้าชม : 08.00-17.00 น.

 10. วัดเขาทุเรียน

วัดเขาทุเรียน หรืออีกชื่อเรียกก็คือ วัดสีชมพู เป็นวัดที่สร้างขึ้นมาโดยชาวมอญ ซึ่งมีการบูรณปฏิสังขรณ์โดยกลุ่มชนชาวลาวเวียงจันทน์ที่อพยพเข้ามาในช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์อีกทีค่ะ โดยมีอายุมามากกว่า 200 ปี ซึ่งนอกจากตัววัดที่มีความพิเศษไม่เหมือนใครแล้ว ที่นี่ยังเป็น สุดยอดส้วมแห่งปีพ.ศ. 2552 อีกด้วยค่ะ บอกเลยว่าต้องไม่พลาดมาชมกันค่า

    ที่อยู่ : ตำบลเขาพระ อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก
    เปิดให้เข้าชม : 06.00-18.00 น.

11. วัดประสิทธิเวช

วัดประสิทธิเวช เป็นสถานปฏิบัติธรรมที่สำคัญของ จังหวัดนครนายก ภายในจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย ทั้ง พระบรมสารีริกธาตุ ที่ประดิษฐานอยู่ในเจดีย์กลางน้ำ รูปหล่อ หลวงพ่อธา (พระครูศรัทธาภินันท์) มณฑปเก่าที่จัดเก็บเครื่องเงิน เครื่องลายคราม และเครื่องทองเหลืองเก่าแก่เอาไว้ ซึ่งสายบุญส่วนใหญ่จะนิยมมาไหว้ขอพร หลวงพ่อธา กัน ว่ากันว่าศักดิ์วสิทธิ์อย่างมาก รวมไปถึงมี องค์พระพิฆเนศวร องค์เจ้าแม่กวนอิม พระบรมรูปเสด็จพ่อ ร.5 ศาลเจ้าแม่ตะเคียน ให้ได้สักการะด้วยค่ะ

    ที่อยู่ : ตำบลบางปลากด อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก
    เปิดให้เข้าชม : 06.00-18.00 น.

 12. วัดช้าง

วัดช้าง แห่งนี้ เคยเป็นที่พักช้างของทางราชการ มาตั้งแต่ในสมัยกรุงศรีอยุธยาแล้วค่ะ อีกทั้งยังมีปะรำพิธีรับช้างด้วย รวมถึงในบึงน้ำยังมีการพบซากกระดูกช้างอีกเป็นจำนวนมาก เลยมีการตั้งวัดนี้ว่า "วัดช้าง" นั่นเองค่ะ ส่วนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในนั้นก็จะมีตั้งแต่ พระพุทธรูปต่างๆ ท้าวเวสสุวรรณ องค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ พระสุพรรณกัลยา และ พระโพธิสัตว์กวนอิมปางประทับช้างสามเศียร

    ที่อยู่ : ตำบลบ้านนา อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก
    เปิดให้เข้าชม : สามารถเข้าชมได้ตามเวลาเปิดปิดของสถานที่

 13. วัดธรรมปัญญา

วัดธรรมปัญญา หรือที่เรียกกันว่า วัดหลวงพ่อเสาร์ 5 เป็นอีก วัดสวย และมีชื่อเสียงอย่างมากสำหรับสายบุญ โดยคนส่วนใหญ่จะนิยมมาไหว้ หลวงพ่อเสาร์ห้า พระประธานภายในอุโบสถ รวมถึงจะต้องมาลอดโบสถ์ เพื่อเสริมสิริมงคลกันด้วยค่ะ อีกทั้งไฮไลท์ก็คือ มีบ่อน้ำโผล่อยู่กลางพระอุโบสถ ว่ากันว่าเป็นบ่อน้ำที่น้ำไม่มีวันหมดนั่นเอง ใครอยากได้ความเป็นสิริมงคล แวะมาสักการะกันได้เลยค่ะ

    ที่อยู่ : ตำบลพรหมณี อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก
    เปิดให้เข้าชม : สามารถเข้าชมได้ตามเวลาเปิดปิดของสถานที่

 14. วัดโพธินายก

วัดโพธินายก ตั้งอยู่ริมแม่น้ำนครนายก โดยเป็นวัดเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 4 แล้วค่ะ และยังเป็นอีกวัดสำคัญแห่งหนึ่งของเมืองนครนายกด้วย เพราะที่นี่เคยเป็นสถานที่ประกอบพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยานั่นเอง ภายในวัดมีการประดิษฐาน หลวงพ่อไข ในโลงแก้วเพื่อให้มากราบบูชา แล้วยังสามารถลอดใต้โลงแก้วเพื่อสิริมงคลได้ด้วย อีกทั้งตัวของวัดเอง ก็มีความสวยงดงามอย่างมาก แวะมาทำบุญไหว้พระกันได้เลยค่ะ

    ที่อยู่ : ตำบลนครนายก อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก
    เปิดให้เข้าชม : สามารถเข้าชมได้ตามเวลาเปิดปิดของสถานที่

 15. วัดถ้ำสาริกา

วัดถ้ำสาริกา นั้น เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนภูเขาลูกเล็กๆ โดยเป็นแค่เพียงเพิงหินเล็กๆ ภายใต้ก้อนหินขนาดใหญ่ ภายในจะไม่มีหินงอกหินย้อย ซึ่งที่นี่เคยเป็นสถานที่ที่ หลวงปู่มั่น เดินทางธุดงค์มาฝึกวิปัสนากรรมฐานอีกด้วยค่ะ ด้านในบริเวณวัดยังมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ทั้ง พระพุทธชินราชจำลอง องค์ปู่ฤๅษี และพระพุทธรูปอีกหลายองค์ด้วยกัน สามารถมาชมวิวธรรมชาติ พร้อมกับไหว้บุญไปพร้อมๆ กันได้เลยค่ะ

    ที่อยู่ : อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก
    เปิดให้เข้าชม : สามารถเข้าชมได้ตามเวลาเปิดปิดของสถานที่

6
การรับประทานอาหารกับการจัดฟันเด็ก

การรับประทานอาหารถือเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับการดำรงชีวิต ซึ่งการเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม และมีประโยชน์ ก็จะช่วยทำให้ร่างกายของเรามีสุขภาพที่แข็งแรง การรับประทานอาหารนั้น เราจะต้องใช้ช่องปากและฟันของเราเพื่อบดเคี้ยวอาหาร เพราะฉะนั้น ในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของเรา จึงมีความสำคัญไม่แพ้กันกับอวัยวะส่วนอื่นที่เราจะต้องดูแลเอาใจใส่ให้มากเป็นพิเศษ นอกจากนี้ สุขภาพช่องปากและฟันของเราก็ยังส่งผลต่อการบดเคี้ยวอาหารด้วย เพราะถ้าเรามีลักษณะฟันที่มีการสบฟันที่ผิดปกติ ก็อาจจะทำให้การบดเคี้ยวอาหารได้ไม่ดีเท่าที่ควร หลายคนมักจะต้องเจอปัญหาดังกล่าว และยิ่งถ้าหากเรามีฟันที่ปกติแล้วการรับประทานอาหารก็ถือเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งอาจจะส่งผลต่อสุขภาพร่างกายโดยรวมของเราได้

สำหรับคนที่มีปัญหาในเรื่องของการสบฟันผิดปกติหรือรูปร่างฟัน ส่วนใหญ่ก็จะเลือกใช้วิธีการเข้ารับการรักษาด้วยการจัดฟันเพราะจะสามารถแก้ไขปัญหาฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงในวัยเด็กที่มีการสบฟันที่ผิดปกติก็สามารถเข้ารับการจัดฟันได้แล้ว ดังนั้น ในเรื่องของการรับประทานอาหารก็อาจจะส่งผลต่อการจัดฟันด้วยเช่นเดียวกันเนื่องจากในวัยเด็กมักจะมีอาหารที่ชื่นชอบ นั่นก็คือ ของหวาน ขนม ลูกอมต่างๆ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกที่เด็กๆในวัยนี้จะชื่นชอบอาหารที่มีรสหวาน ซึ่งนั่นก็หมายความว่าจะส่งผลต่อสุขภาพช่องปากและฟันได้

เพราะการรับประทานอาหารที่หวานหรือมีน้ำตาลเป็นจำนวนมากจะส่งผลให้เด็กเกิดฟันผุได้ ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดการสูญเสียฟันและทำให้เกิดช่องว่างระหว่างฟันทำให้ยิ้มไม่มั่นใจ ซึ่งการรับประทานอาหารนั้น ก็ส่งผลต่อการจัดฟันของเด็กและในวันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงเรื่องของการรับประทานอาหารกับการจัดฟันในเด็กว่าส่งผลกระทบอย่างไรบ้างและควรที่จะป้องกันอย่างไรไม่ให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมา

สำหรับการรับประทานอาหารของเด็ก จริงๆแล้ว ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และหลีกเลี่ยงอาหารที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย รวมไปถึงสุขภาพช่องปากและฟันด้วยแต่ในทางกลับกันเด็กมักนิยมรับประทานอาหารของหวาน เช่น ขนม ลูกอม ซึ่งเรียกว่าเป็นอาหารประเภทที่หลายคนชื่นชอบ ซึ่งอาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะทำให้เกิดฟันผุและเกิดปัญหาเกี่ยวกับช่องปากและฟัน โดยเฉพาะเด็กที่เข้ารับการจัดฟันในเรื่องของการรับประทานอาหารนั้น จะต้องระมัดระวังให้มากเป็นพิเศษ

หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า การเข้ารับการจัดฟันนั้นเราจะมีเครื่องมือการจัดฟันอยู่ภายในช่องปากและเครื่องมือเหล่านี้ก็เป็นชนิดเหล็กแบบติดแน่น ซึ่งก็สามารถหลุดออกได้หากกระทบกับของแข็ง เช่น อาหารที่มีความแข็ง ขนม ลูกอมต่างๆ เพราะฉะนั้น หลังจากติดเครื่องมือการจัดฟันแล้ว พ่อแม่ผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลานของท่านในเรื่องของการรับประทานอาหาร ควรเลือกอาหารให้ลูกอย่างเหมาะสม เพื่อที่จะไม่เป็นอุปสรรคในการรับประทานอาหาร

7
มอเตอร์โชว์: ดีพอล Deepal-L 07 S-ปี 2024
1,239,000 บาท

ดีพอล Deepal-L 07 S-ปี 2024
Deepal L07 S รถยนต์ fastback ไฟฟ้าคันแรกในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ CHANGAN โดดเด่นด้วยการออกแบบที่สะท้อนถึงปรัชญาความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยเน้นที่ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า รูปลักษณ์ภายนอกถูกดีไซน์ให้โฉบเฉี่ยวแต่ยังคงความเรียบหรูด้วยกระจังหน้าแบบมินิมอล ตกแต่งด้วยไฟหน้า LED อัจฉริยะ นอกจากนี้ยังมีการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ เสริมด้วยการใช้เส้นสายอันพริ้วไหวที่ด้านข้างของตัวรถ ช่วยเพิ่มสุนทรียภาพในการขับขี่ ภายในห้องโดยสารของ Deepal L07 ประกอบด้วยห้องโดยสารแบบดิจิทัลเต็มรูปแบบพร้อมเซ็นเซอร์ครบวงจร ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดูล้ำสมัย สอดคล้องกับเป้าหมายในการก้าวเข้าสู่อนาคตยานยนต์อันยั่งยืนของ CHANGAN ตลอดจนสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการผสานสุนทรียภาพของการออกแบบเข้ากับประสิทธิภาพการใช้งานอย่างแท้จริง

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์            Deepal
   รุ่น                 ดีพอล Deepal-L 07 S-ปี 2024
   ประเภทรถ        Electric - EV, รถเก๋ง 4 ประตู
   ปีที่เปิดตัว         2024
   ราคา             1,239,000 บาท

ดีไซน์
   ภายนอก
สปอยเลอร์หลัง (ดีไซน์แบบ Sport)
ไฟท้าย LED (ดีไซน์แบบ Star Flame)
ไฟหน้า LED
หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ (แบบกันความร้อน)
ล้ออัลลอย (19 นิ้วลาย New Sport)
ขนาดยางหน้า-หลัง (245/45R19)

   ภายใน
ระบบจดจำปรับที่นั่งคนขับ (พร้อมระบบเลื่อนเข ้า-ออกอัตโนมัติ พร้อมระบบเป่าลมบรเิวณเบาะนั่งและพนักพิงหลังสำหรับคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า)
ระบบปรับรูปแบบการขับขี่ (ECO/COMFORT/SPORT/CUSTOMIZE)
อุปกรณ์วัดความเร็วสะท้อนกระจก Head Up Display ((AR Head-up Display with AR Navigation)

สเปค
   มอเตอร์ไฟฟ้า                  กำลังสูงสุด 190 กิโลวัตต์/ 258 แรงม้า /แรงบิด  320 นิวตัน-เมตร
   กำลังเครื่องยนต์ (แรงม้า)     แรงม้า
   ระบบเกียร์                       เกียร์อัตโนมัติ
   รูปแบบเกียร์
   ระบบเบรค ABS
   ชนิดแบตเตอรี่                   ไฟฟ้า
   ความจุแบตเตอรี่                58.86 kWh
   ระยะทางวิ่ง/การชาร์จ 1 ครั้ง  475
   น้ำหนักตัวรถ                    -
   ประเภทยางรถยนต์             -
    ขนาดล้อ                          ล้ออัลลอย (19 นิ้วลาย New Sport)
   ระบบขับเคลื่อน                   ขับเคลื่อนล้อหลัง

ระบบความปลอดภัยระบบความปลอดภัย
อุปกรณ์ความปลอดภัย  อุปกรณ์ความปลอดภัย
หลอดไฟพิเศษระบบ Daytime Running Lights(DRL) (ดีไซน์แบบ Star Petal)
อื่นๆ (ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนประตูขณะเปิด,ะบบช่วยเตือนระยะห่างจากรถคันหน้า)
กล้อง (มองภาพรอบทิศทาง 360 องศา พร้อมระบบแสดงภาพตัวรถแบบโปร่งแสง และ ระบบบันทึกวิดีโอการขับข)
เทคโนโลยีสัญญาณเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์ด้านหน้าขณะขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Forward Collisio
เทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking - IEB) (และ ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน,ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัตที่เคลื่อนที่ความเร็วต่ำ,ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน)
เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning - BSW) (และระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน)
เทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้านหลังรถขณะถอย (Rear Cross Traffic Alert - RCTA) (และ ระบบช่วยเตือนหากเสี่ยงต่อการโดนชนดา้นหลัง, ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถทที่มีมุมอับสายตาขณะถอยหลัง, ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถที่มีมุมอับสายตาขณะถอยหลัง)

8
รถยนต์ใหม่ 2024: เนต้า Neta-X 480 Smart-ปี 2024
799,000 บาท

เนต้า Neta-X 480 Smart-ปี 2024
NETA X 408 Smart รถยนต์พลังงานไฟฟ้าสไตล์ SUV ชูจุดเด่นภายในห้องโดยสารกว้างนั่งสบาย 80% ของพื้นที่ห้องโดยสารเป็นวัสดุบุนุ่ม หน้าจอระบบสัมผัส ขนาดใหญ่ 15.6 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยและฟังก์ชันการใช้งานอัจฉริยะ ให้ความมั่นใจในการขับขี่ด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS ระดับ 2.0 รวมถึงระบบความปลอดภัยที่ครบครัน มาพร้อมแบตเตอรี่ ลิเธียม ไอออนขนาด 62 kWh ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 480 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง (มาตรฐาน NEDC)

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์               Neta
   รุ่น                    เนต้า Neta-X 480 Smart-ปี 2024
   ประเภทรถ           รถอเนกประสงค์ SUV, Electric - EV
   ปีที่เปิดตัว            2024
   ราคา                 799,000 บาท

ดีไซน์
   ภายนอก
ล้ออัลลอย (18 นิ้ว)
หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ
ขนาดยางหน้า-หลัง (225/60R18)
ไฟ Daytime Running Lights
ไฟหน้า (ระบบเปิดปิดไฟสูงอัตโนมัติิ HBA)
ปัดน้ำฝนกระจกหลัง
ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบพิเศษ (แบบอัตโนมัติ)
ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ (LED)

   ภายใน
ระบบปรับรูปแบบการขับขี่ (3 รปแบบ (Eco/Comfort/Sport))
พวงมาลัยไฟฟ้า
ม่านบังแดด (ไฟฟ้า)
พวงมาลัยหุ้มหนัง (สังเคราะห์พรีเมียม)
ปลั๊กไฟ 12 โวลท์ (ด้านหน้า/ท้ายรถ)

สเปค
   มอเตอร์ไฟฟ้า                   Permanent Magnet Synchronous Motor กำลัง 163 แรงม้า แรงบิด 210 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุด 150 กม/ชม อัตราเร่ง 0-100 กม/ชม ใน 9.5 วินาที ช่องอัดประจุ CCS2 AC 6.6 กิโลวัตต์, DC 100 กิโลวัตต์

   กำลังเครื่องยนต์ (แรงม้า)        แรงม้า
   ระบบเกียร์                          เกียร์อัตโนมัติ
   รูปแบบเกียร์                        ไฟฟ้า
   ระบบเบรค ABS                    มี
   ชนิดแบตเตอรี่                     ไฟฟ้า
   ความจุแบตเตอรี่                   51.8 kWh
   ระยะทางวิ่ง/การชาร์จ 1 ครั้ง     480 กม. (ตามมาตรฐาน NEDC)
   น้ำหนักตัวรถ                          -
   ประเภทยางรถยนต์                   -
   ขนาดล้อ (นิ้ว)                     ล้ออัลลอย (18 นิ้ว)
   ระบบขับเคลื่อน                    ขับเคลื่อนล้อหน้า

ระบบความปลอดภัยระบบความปลอดภัย
อุปกรณ์ความปลอดภัย  อุปกรณ์ความปลอดภัย
ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ESC,ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS)
ตัวถังนิรภัย (HSS Body)
ดิสก์เบรก 4 ล้อ
เซ็นทรัลล็อค (ปลดล๊อหประตูอัตโนมัติกรณีเกิดอุบัติเหตุ)
กุญแจรีโมท
กุญแจนิรภัย (Immobilizer)
ไฟเบรกดวงที่ 3 (LED)
สัญญาณเตือนถอยหลัง
ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ (ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW)
ระบบกระจายแรงเบรก EBD (,ระบบช่วยเบรก)
อุปกรณ์เสริมความปลอดภัยอื่นๆ (ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง)
เข็มขัดนิรภัย (คู่หน้าแบบรั้งตัวและดึงกลับอัตโนมัติ,แถวหลังแบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง)
ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน (HHC/ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC)
เทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้านหลังรถขณะถอย (Rear Cross Traffic Alert - RCTA)
เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor - IAVM)
เบรกมือไฟฟ้า (EPB)
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX)
ADAS ระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง (ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB, ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน, ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน,ระบบช่วยเปลี่ยนเลนพร้อมตรวจจุดอับสายตา,ระบบแจ้งเตือนประตูเปิด,ระบบจดจำป้ายจราจร,ระบบจำลองเสมือนจริง)

9
ชุดปฏิบัติธรรม ชุดแม่ชี เราเป็น โรงงานผลิตโดยตรง
ตัดเย็บปราณีต ทรงสวย เรียบหรู ดูสง่างดงาม
ผลิตจาก ผ้าฝ้ายแท้ 100% เกรดพรีเมียม

ชุดปฏิบัติธรรม ชุดขาวไปวัด ชุดแม่ชี
– ราคาแยกรายชิ้น –
ทอย้อมจากโรงงานอุตสาหกรรมชั้นดี
พร้อมส่งทุกไซส์
(กรณีสั่งตัดไซส์พิเศษ รอผลิต 7-10 วัน)
จัดส่งฟรี‼ เมื่อลูกค้าโอนชำระ
มีบริการเก็บเงินปลายทาง (+ตัวละ 10.-)

รับตัดชุดขาวไซส์ใหญ่พิเศษ
หมดกังวล หาไซส์ไม่ได้ ทางร้านเป็นโรงงานผลิตโดยตรง
สามารถสั่งตัดชุดได้ตามความต้องการ รอผลิต 7-10 วันทำการ

ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ

สัมผัสประสบการณ์ใหม่
จากผ้าฝ้ายแท้ 100%
 นุ่มสบาย ไม่ร้อน ไม่ระคายคือง
ใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การคัดสรรเนื้อผ้า
การตัดเย็บ รวมไปถึงการจัดส่งแบบปกติ
และจัดส่งเร่งด่วน (Kerry EMS Grab)

ชุดขาวปฎิบัติธรรม ชุดขาวหญิง ชุดแม่ชี คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด

ชุดปฎิบัติธรรมชาย คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด


ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ


10
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม

– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”

สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


11
ขายรถป้ายแดง Mitsubishi All New Triton Double Cab Prime ไมล์น้อย โปรฟรีดาวน์

ขุมพลังใหม่ แรงเต็มสมรรถนะ มั่นใจทุกการขับเคลื่อน
เต็มพลัง พร้อมตอบสนองทันใจ กับขุมพลังใหม่ HYPER POWER เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 2.4ลิตร เทอร์โบแปรผัน เจนเนอเรชันล่าสุด พัฒนาใหม่หมด

ACTIVE YAW CONTROL (AYC)
ปลอดภัยกว่า ด้วยระบบควบคุมการขับเคลื่อน และสมดุลขณะเข้าโค้งโดยระบบจะควบคุมการทำงานของล้อด้านในโค้งกับล้อด้านนอกโค้งให้หมุนสัมพันธ์กัน เพื่อรักษาเสถียรภาพการเข้าโค้งอย่างแม่นยำ (เฉพาะรุ่น PRIME 4WD)

หมายเหตุ : รายละเอียดของรถยนตอ์าจมีการเปลี่ยนแปลงภายหลัง

รถผู้บริหาร รถทดลองขับ ไมล์น้อย ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ

โปรโมชั่นพิเศษ
ตั้งแต่ 15 ก.ย. - 30 ธ.ค. 2567
ส่วนลด 150,000 สามารถนำมาเป็นเงินดาวน์เพื่อทำโปรฟรีดาวน์ได้

ราคาพิเศษ 798,000 บาท

สนใจสอบถามรายละเอียดกดลิ้ง https://www.checkraka.com/flashdeal/car


12
จัดฟันบางนา: จัดฟันได้สบายโดยไม่มีเหล็กจัดฟันมาคอยให้ยุ่งยากรำคาญ

 ในปัจจุบันนี้การเข้ารับการจัดฟัน ถือว่าเป็นการรักษาทางทันตกรรมที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน หลายคนมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและฟันจนทำให้เกิดฟันผุ จนนำไปสู่การสูญเสียฟันได้ ซึ่งการสูญเสียฟันนั้นจะทำให้เกิดการผิดปกติของฟันหลายอย่าง ทำให้เกิดปัญหาต่างๆมากมายตามมา หากไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งการที่เราสูญเสียฟันนั้น จะทำให้เรามีอาการฟันห่างฟัน ซ้อนเก ซึ่งจะส่งผลทำให้เกิดปัญหาสุขภาพช่องปากและฟัน ทำให้บดเคี้ยวอาหารได้ไม่ละเอียด อาจจะส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมได้

ดังนั้น คนส่วนใหญ่จึงนิยมใช้วิธีการจัดฟันเพื่อแก้ไขปัญหาความผิดปกติ โดยการจัดฟันนั้น แน่นอนว่า มีด้วยกันหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการจัดฟันแบบเครื่องมือแบบติดแน่น แบบที่เราเห็นกันทั่วไป การจัดฟันแบบใส การจัดฟันแบบเร็ว ซึ่งแน่นอนว่าการจัดฟันในรูปแบบต่างๆก็จะมีผลการรักษาที่แตกต่างกันออกไปและสามารถแก้ไขปัญหาได้แตกต่างกัน สำหรับจุดประสงค์ของการเข้ารับการจัดฟันแน่นอนว่า

ผู้ที่เข้ารับการจัดฟันจะต้องอยากมีฟันที่สวยงามเป็นธรรมชาติ ถ้าหากพูดถึงเรื่องของความสวยงามที่ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด ก็ต้องหนีไม่ผลการจัดฟันแบบใส เพราะ การจัดฟันแบบใสนั้น แน่นอนว่าจะไม่มีเครื่องมือการจัดฟันติดอยู่ภายในช่องปาก  ถือว่ามีความสะดวกสบายแก่ผู้เข้ารับการจัดฟันมากเลยทีเดียว สำหรับการจัดฟันแบบใสนั้น สามารถตอบโจทย์หลายสไตล์ของคนในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

เนื่องจากการจัดฟันแบบใสจะใช้เครื่องมือที่สามารถถอดออกได้ ใช้ในการแก้ไขปัญหาและช่วยทำหน้าที่เคลื่อนตัวฟันไปยังตำแหน่งที่ทันตแพทย์ได้กำหนดไว้ ก็จะทำให้ฟันของผู้เข้ารับการจัดฟันแบบใสมีความสวยงาม มีรอยยิ้มที่เป็นธรรมชาติ ปราศจากเหล็กอยู่ภายในช่องปาก ไม่สร้างความรำคาญให้กับผู้เข้ารับการจัดฟัน

 โดยส่วนใหญ่แล้วผู้เข้ารับการจัดฟันมักจะมีปัญหาเกี่ยวกับบุคลิกภาพ และบาดแผลภายในช่องปาก เนื่องจากมีเหล็กจัดฟันอยู่ภายในช่องปากทำให้เราติดนิสัยที่ผิดปกติ เช่น ใช้ลิ้นดุนเหล็กจัดฟัน อาจจะทำให้เกิดการระคายเคือง ทำให้เกิดแผลในช่องปากได้ ซึ่งถือว่าเป็นพฤติกรรมที่พบได้บ่อย สำหรับผู้ที่เข้ารับการจัดฟัน แต่ต้องบอกว่าการจัดฟันแบบใสนั้นจะทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันสะดวกสบายเนื่องจากสวมใส่ได้อย่างง่ายดายและถอดออกได้

ขณะรับประทานอาหาร ซึ่งตอบโจทย์ต่อการใช้ชีวิตประจำวันของคนในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว เพราะไม่ต้องมีเหล็กหรือลวดจัดฟันมาคอยทำให้ยุ่งยากรำคาญ ทำให้รับประทานอาหารได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น การจัดฟันแบบใส จึงให้ความสบายสูงสุด และเพราะว่าผู้เข้ารับการจัดฟันแบบใส สามารถถอดมันได้ทุกเมื่อ มีอิสระสูงสุดที่จะรับประทานอาหารจานโปรดจานไหนๆได้อย่างเต็มที่

โดยไม่ต้องกังวลว่าเหล็กจะหลุดขณะรับประทานอาหาร รวมไปถึงการแปรงฟันหรือใช้ไหมขัดฟันก็สามารถใช้ได้สะดวก และสะอาดทุกซอกทุกมุม จึงทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันแบบใส สามารถมีรอยยิ้มสวยสดใส ไม่ต้องพะวงหรือเก็บซ่อนรอยยิ้มนั้นไว้อีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม หากคุณสนใจเข้ารับการจัดฟันแบบใส ก็สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกเพราะทางเรามีทันตแพทย์และเจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษา และทันตแพทย์ของเรามีความเชี่ยวชาญในด้านการจัดฟันแบบใส มีประสบการณ์ทางด้านทันตกรรมอย่างยาวนาน จึงสามารถให้คำปรึกษาได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ คลินิกของเรายังได้รับการรับรองสูงสุดจาก  invisalign ให้สามารถให้บริการทางด้านการจัดฟันแบบใส ได้อย่างปลอดภัยตามหลักมาตรฐานสากล จึงทำให้ผู้เข้ารับการรักษาทุกคนมั่นใจได้ว่า คุณจะได้รับการรักษาที่มีความปลอดภัย มีความน่าเชื่อถือได้อย่างแน่นอน เพราะเราอยากให้ทุกคนมีฟันที่สวยงามเป็นธรรมชาติ เพื่อที่จะได้ ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่ และมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน

13
ออล นิว ไทรทัน: Mitsubishi Triton Athlete 4WD สมรรถนะได้ ดีไซน์รอการพิสูจน์

มิตซูบิชิ จัดกิจกรรมทดสอบ ออล-นิว ไทรทัน แอทลีท ใช้เส้นทางแถบภาคเหนือเพราะมีความหลากหลาย แบ่งเป็นหลายกลุ่มหลายเส้นทาง บางกลุ่มได้ลองขับบนทางออฟโรดโหดๆ ส่วนทีมงานมอเตอร์ทริเวียได้ลองสมรรถนะบนถนนดำทางเรียบ ที่มีทั้งทางโล่งตรงยาวและทางคดเคี้ยวขึ้น-ลงเขา ยาวๆ กว่า 250 กิโลเมตร ได้ลองสมรรถนะกันแบบรอบด้านตั้งแต่เครื่องยนต์ เกียร์ พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า ช่วงล่าง เบรก รวมทั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ บทความนี้เน้นเรื่องความรู้สึกหลังจากได้ทดลองขับล้วนๆ ส่วนสเปคและรายละเอียดทางเทคนิค มีอยู่ในคลิปและในไฟล์ PDF แคตาล็อกที่แนบมาครับ
เครื่องยนต์ไหลลื่นทันใจ (ถ้าไม่คาดหวังมากเกินไป)

ที่มีวงเล็บเพราะต้องดักคอไว้ก่อน สำหรับบางคนที่เห็นตัวเลขแรงม้าแรงบิดแล้วมีความคาดหวังสูง จากกำลัง 204 แรงม้า ที่ 3,500 รอบฯ กับแรงบิด 470 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-2,750 รอบฯ ที่ไม่ได้ทำให้เร่งรวดเร็วแบบรถสปอร์ต แต่เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งานมากกว่า ช่วงแรกขับในเมืองการจราจรติดขัด รู้สึกว่าขับได้นุ่มนวล เร่งออกตัวจากจุดหยุดนิ่งได้ทันใจ และยังควบคุมความเร็วของรถให้เหมาะสมกับสภาพการจราจรที่เป็นแบบเร่งๆ หยุดๆ ได้ง่าย

การขับบนทางโล่งตรง เร่งได้ทันใจตั้งแต่ออกตัว และไหลลื่นต่อเนื่องไปถึงความเร็วเดินทาง เป็นการเร่งแบบไม่ต้องรีดเค้นเครื่องยนต์ ไม่ต้องลากรอบสูง ส่วนการเร่งแซงก็แทบไม่ต้องคิ๊กดาวน์เพื่อเปลี่ยนเกียร์ลงต่ำ แค่เพิ่มน้ำหนักเท้าลงไปบนแป้นคันเร่ง ก็เพิ่มความเร็วได้อย่างทันใจแล้ว ยกเว้นการแซงฉุกเฉินก็ต้องใช้การเปลี่ยนเกียร์ลงต่ำช่วย แต่โดยการใช้งานส่วนใหญ่แล้วแทบไม่ต้องคิ๊กดาวน์

ช่วงขับขึ้น-ลงทางลาดชันและคดเคี้ยว มีโค้งหักศอกพับผ้าไต่เนินชัน เครื่องยนต์ที่มีแรงบิดสูงในรอบต่ำจะทำให้ขับง่าย ไม่ต้องเลี้ยงรอบเผื่อไว้ ไม่ต้องเร่งส่งหรือใช้ความเร็วสูงให้เสี่ยงอันตราย ขับช้าๆ มาตามสภาพถนนที่คดเคี้ยว เจอโค้งหักศอกขึ้นเนิน ก็แค่กดคันเร่งเพิ่ม รถก็ไต่เนินได้สบายไม่ต้องลุ้น และยังมีกำลังสำรองให้อุ่นใจเมื่อต้องแซงบนเนิน ไม่รู้สึกว่าอืดหรือไม่ทันใจ ทำให้การขับขึ้นเนินต่อเนื่องตลอด 3-4 ชั่วโมง ไม่รู้สึกเหนื่อยล้าหรือเครียด ทั้งที่ใช้ความเร็วสูงกว่าปกติอยู่พอสมควร
เกียร์ 6 จังหวะ เปลี่ยนเร็ว นุ่มนวล

เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ดูจะน้อยไปนิดในแง่จำนวนจังหวะ แต่ถ้าดูลึกไปถึงสเปคแล้ว จะพบว่าเซตมาเหมาะกับประเภทของรถ และครอบคลุมการใช้งานได้ดี เครื่องยนต์มีกำลังแรงบิดสูงและเป็นรถ 4 ประตูที่เน้นโดยสารมากกว่าบรรทุก ไม่ต้องใช้อัตราทดเกียร์และเฟืองท้ายสูงมาก จึงเร่งได้ต่อเนื่องลื่นไหลต่อเนื่อง โดยในเกียร์ 4 เป็นเกียร์ตรง อัตราทด 1.000 ส่วนเกียร์ 5 และ 6 เป็นโอเวอร์ไดรฟ์ อัตราทดต่ำกว่า 1 ช่วยลดรอบลดการสึกหรอ

ในรุ่น 4WD ที่ทดลองขับ ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Super Select 4WD II พร้อม Diff-Lock ที่เฟืองท้าย และโหมดการขับ 7 รูปแบบ เส้นทางที่ขับส่วนใหญ่เป็นทางเรียบ แต่คดเคี้ยวแบบสุดๆ ที่ได้ใช้บ่อยสุดก็คือ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ 4H ซึ่งเป็นการขับเคลื่อน 4 ล้อที่ใช้ความเร็วสูงได้ ช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนน แต่ก็แลกมาด้วยอัตราสิ้นเปลืองและการสึกหรอที่เพิ่มขึ้น แต่ก็คุ้มค่าเมื่อแลกกับความปลอดภัย

ขึ้นเขาช่วงแรกลองใช้ 2H ขับเคลื่อนล้อหลังปกติ ก็ขับเกาะกลุ่มไปกับคันอื่นที่ใช้ 4H ได้ แต่ต้องใช้สมาธิมากกว่า เพราะอย่างที่บอกว่าขับกันเร็วกว่าปกติ ในโหมด 2H จะต้องระวังทั้งอาการหน้าดื้อเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงเกินไปหรือเบรกหนักเบรกลึกเกินไป และถ้ากดคันเร่งลึกเกินไปตอนอยู่ในโค้ง หรือยังไม่ได้คลายพวงมาลัยออกมากพอ ก็จะมีอาการท้ายไหลแว่บหนึ่ง ก่อนที่ระบบช่วยเหลืออย่างระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ASC-Active Stability Control และระบบควบคุมการลื่นไถล TCS-Traction Control System จะทำงาน ถ้าขับแค่ไม่กี่กิโลเมตร ก็คงไม่แตกต่างกันนัก แต่เมื่อต้องหวดยาวๆ บนทางคดเคี้ยวกว่า 100 กิโลเมตรต่อวัน การใช้โหมด 4H แล้วทำให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้น ลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

ใช้ระบบขับเคลื่อน 4H แล้วใช้ความเร็วเท่าเดิม โค้งยังโหดเหมือนเดิม แต่รู้สึกได้ทันทีว่าควบคุมรถง่ายขึ้น อาการโยนตัวน้อยลง ตัวรถค่อนค่อนข้างเป็นกลาง นิ่งและจิกไปตามโค้งแคบๆ ได้ดี แม้พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้าจะตึงมือขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ไม่ถึงกับหนักแรง และที่สำคัญคือ ไม่มีอาการฝืนของพวงมาลัยเหมือนรถขับเคลื่อน 4 ล้อยุคก่อน

แม้จะเป็นโค้งมุมแคบแบบพับผ้า หรือโค้งแคบต่อเนื่องจนเกือบจะเป็นยู-เทิร์น ก็ยังเลี้ยวได้ปกติ วงเลี้ยวไม่กว้างขึ้นเยอะจนเกิดอันตรายจากการแหกโค้ง การตีกลับของพวงมาลัยยังนุ่มนวลเหมือนเดิม ไม่กระชาก ลองกดคันเร่งหนักๆ ตามสไตล์เข้าช้า-ออกเร็ว รถก็พุ่งออกจากโค้งได้แบบนิ่งๆ ขับเลาะบนทางขึ้นลงเขาได้สนุก ปลอดภัย และเบาแรง ลดความเหนื่อยล้าไปได้มาก ส่วนบนทางเรียบตรง

การใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4H จะไม่รู้สึกแตกต่างมากนัก นอกจากพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้าจะตึงมือขึ้นเล็กน้อย ส่วนใหญ่จึงใช้แบบขับ 2 ล้อปกติ รู้สึกว่าเกียร์เปลี่ยนขึ้นและลงเร็วกว่าเกียร์อัตโนมัติทั่วไปอยู่เล็กน้อย โดยจะรู้สึกได้ชัดในจังหวะคิ๊กดาวน์ หรือลองใช้โหมด +/- ที่คันเกียร์ ก็จะรู้สึกได้ว่าเกียร์เปลี่ยนได้เร็วทั้งจังหวะขึ้นและลง ถ้าอยู่ในโหมด +/- จะคิ๊กดาวน์ไม่ได้ ต้องโยกคันเกียร์เท่านั้น และถ้าความเร็วยังไม่เหมาะสม ก็ไม่สามารถเปลี่ยนเกียร์ขึ้นสูงได้ด้วย เกียร์ที่เปลี่ยนได้กระชับไม่มีช่วงย้วย มีความรวดเร็วและนุ่มนวล มีส่วนช่วยเสริมให้ขับสนุกทันใจขึ้น
พวงมาลัยไฟฟ้า หนักแน่นแม่นยำ

●   ออล-นิว ไทรทัน แอทลีท เป็นรุ่นเดียวในอนุกรมนี้ ที่ใช้พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า ซึ่งมีข้อดีในแง่ความรู้สึกในการบังคับควบคุม มีการผ่อนแรงที่พอเหมาะกับประเภทรถ และสอดคล้องกับความเร็วที่ใช้ ขับความเร็วต่ำก็เบาแรง แต่ไม่ถึงกับเบาหวิว ทำให้ขับรถคันใหญ่ๆ ในเมืองหรือที่แคบได้คล่องตัวพอสมควร ขับทางไกลใช้ความเร็วสูงก็หนักแน่นมั่นใจ และเมื่อขับบนทางคดเคี้ยวน้ำหนักของพวงมาลัยก็มีความคงเส้นคงวา ต่อเนื่องสม่ำเสมอทั้งจังหวะหมุนและคืนพวงมาลัย ควบคุมรถได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่หนักแรง และขับสนุก
ระบบกันสะเทือนและเบรก ไว้ใจได้

●   เลย์เอาท์ของระบบกันสะเทือน ไม่แตกต่างจากรุ่นย่อยอื่น และไม่แตกต่างจากแบรนด์อื่นมากนัก ด้านหน้าอิสระ ด้านหลังคานแข็งแหนบซ้อน โดย ออล-นิว ไทรทัน แอทลีท ใช้ช่วงล่างหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ฐานล้อ 3,130 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุด 222 มิลลิเมตร ยาง 265/60/18 เบรกหน้าดิสก์หลังดรัม พร้อมตัวช่วยครบครันตามมาตรฐาน

●   ช่วงความเร็วต่ำขับในเมือง ช่วงล่างให้ความรู้สึกที่นุ่มนวลราบเรียบ แต่เมื่อเพิ่มความเร็วขึ้นในระดับใช้งานเดินทางไกล ก็ยังมีบุคลิกของรถปิกอัพให้สัมผัสอยู่บ้างในบางสถานการณ์ ด้านหน้ามีการจำกัดการยืดยุบต่อเนื่องได้ดีแล้ว แต่ด้านหลังยังรู้สึกถึงอาการเต้นหรือดีดเบาๆ ในบางจังหวะ แต่ก็เข้าใจได้ว่าต้องเซตช่วงล่างเผื่อสำหรับการบรรทุกด้วย แม้แต่รถเอสยูวีที่ใช้พื้นฐานรถปิกอัพ ก็ยังกำจัดอาการนี้ให้หมดไปได้ยาก แต่โดยรวมเป็นช่วงล่างที่ขับสบาย หนักแน่น มีการยึดเกาะถนนที่ดี ตัวรถยกสูง แต่เข้าโค้งเร็วๆ ได้อย่างมั่นใจ ตัวรถมีอาการโคลงซ้าย-ขวาไม่มากนัก อาการหน้าทิ่มเมื่อเบรก หรือหน้ายกเมื่อกดคันเร่งหนักๆ ก็แทบไม่เกิดขึ้น ขับขึ้นลงทางลาดชันแล้วรู้สึกมั่นคงปลอดภัย

●   การดูดซับแรงสะเทือนถือว่าทำได้ดีเมื่อเทียบกับรถประเภทนี้ ที่เน้นจุดเด่นเรื่องความหนักแน่นแข็งแรงทนทานของชิ้นส่วนระบบกันสะเทือน รูดลุยทางขรุขระได้ดีกว่าเก๋งหรือพวกครอสโอเวอร์พื้นฐานเก๋ง แต่ก็แลกกับความสะเทือนที่มากกว่าด้วย และที่ทำได้ดีอีกจุดคือ เมื่อขับลงหลุมหรือทางขรุขระ พวงมาลัยจะไม่ดิ้นหรือสะบัดจนน่ากลัว ทำให้ขับง่าย ควบคุมรถได้ง่าย

●   ระบบเบรกหน้าดิสก์หลังดรัม ไม่หวือหวาเหมือนพวกดิสก์ 4 ล้อ แต่ทำผลงานได้ดีเกินหน้าตา คันที่ขับดูเหมือนระยะฟรีช่วงแรกจะมากกว่าที่คุ้นเคย แต่ขับแค่ไม่กี่กิโลเมตรเพื่อปรับตัวก็เบรกได้อย่างนุ่มนวลแล้ว เมื่อกดแป้นเบรกพ้นระยะฟรีไปแล้ว การจับตัวของเบรกจะสัมพันธ์กับน้ำหนักเท้าที่กดแป้นเบรก เบรกแล้วไม่หัวทิ่มหัวตำ และสร้างแรงเบรกได้หนักหน่วงดีมาก กดเบรกหนักๆ รถจะถูกดึงลดความเร็วลงในทันที ไม่มีอาการเบรกไหลให้หวาดเสียว กดเบรกหนักๆ หน้ารถไม่จม ท้ายรถไม่ลอย รถดึงช้าลงแบบตรงๆ ไม่ปัดเป๋ ช่วงขับขึ้นลงเขาใช้เบรกมากกว่าทางราบแน่ๆ แต่น้ำหนักเบรกและระยะเบรกก็ไม่เปลี่ยนแปลง
ดีไซน์แล้วแต่รสนิยม

●   รูปลักษณ์ภายนอกโดยส่วนตัวแล้วไม่ชอบแค่ด้านหน้า ที่มองบางมุมดูบวมๆ มนๆ ไปหน่อย ไม่เฉียบคมเหมือนเส้นสายด้านข้างและด้านหลังที่โดยส่วนตัวแล้วชอบ ดูลงตัวทั้งเส้นสายหลักและการตกแต่งเสริม ส่วนภายในโดยรวมก็ถือว่าโอเค แผงคอนโซลดีไซน์เรียบง่ายสะอาดตา เน้นเส้นสายที่ตรงไปตรงมา ดูมั่นคง ไม่หวือหวา วัสดุภายในให้ความรู้สึกที่ดีเมื่อสัมผัส ทั้งคอนโซลหน้า แผงประตู และวัสดุหุ้มเบาะ อุปกรณ์มาตรฐานที่ให้มาก็ถือว่าสมราคา เท่าที่ใช้งานก็ไม่รู้สึกว่าอยากได้อะไรเพิ่ม ยกเว้นตัวผ่อนแรงฝาท้าย ที่น่าจะให้มาด้วย ถ้าจะให้ติ ก็คงเป็นรูปทรงของพวงมาลัยที่น่าจะปรับให้สปอร์ตทันสมัยกว่านี้อีกนิด ส่วนมาตรวัดอะนาล็อกผสมดิจิตอล ก็อ่านค่าต่างๆ ได้รวดเร็วดี อาจดูไม่ทันสมัยนัก แต่โดยส่วนตัวไม่ติเรื่องนี้
ห้องโดยสารเงียบเกินคาด

●   เรื่องการออกแบบต่างจิตต่างใจ แต่เรื่องที่น่าจะเห็นตรงกันก็น่าจะเป็น ความเงียบในห้องโดยสาร ที่ทำได้ดีมาก จอดรถติดไฟแดง ได้ยินเสียงเครื่องยนต์แค่แผ่วๆ เสียงรอบข้างก็ถูกลดทอนลงไปพอสมควร ขับเร็วระดับ 120-130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เริ่มมีเสียงลมปะทะเสาหน้าให้ได้ยินบ้าง ส่วนเสียงเครื่องยนต์จะได้ยินชัดตอนคิ๊กดาวน์ลากรอบสูง ความสั่นสะเทือนจากเครื่องยนต์ก็มีให้สัมผัสไม่มากนัก เสียงยางบดถนนก็แทบไม่ได้ยิน โดยรวมเป็นห้องโดยสารที่เงียบสงบ นุ่มนวล ขับด้วยความเร็วตามกฎหมายได้อย่างผ่อนคลาย และน่าจะลดความเหนื่อยล้าได้มากเมื่อต้องขับทางไกลต่อเนื่อง

●   ออล-นิว ไทรทัน แอทลีท รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ เป็นรถที่ขับดีรอบด้าน เครื่องยนต์ตอบสนองดี เกียร์ฉลาดรวดเร็ว พวงมาลัยไฟฟ้าให้ความรู้สึกที่ดี ช่วงล่างเซตมาลงตัว เบรกดี ห้องโดยสารเงียบ ราคาไม่ถูกไม่แพง 1,298,000 บาท แต่ต้องตอบคำถามคนที่กำลังเลือกรถประเภทนี้ให้ได้ว่า ทำไมต้องเป็นไทรทัน

14
บริการด้านอาหาร: กินผักอย่างไรให้ได้ประโยชน์ สารอาหารครบ
 
เชื่อว่าหลายคนอาจจะไม่ชอบรับประทานผัก เพราะมีรสชาติที่ขมหรือมีกลิ่นที่บางคนอาจจะไม่ชอบ แต่หารู้หรือไม่ว่า การรับประทานผักเป็นประจำนั้น มีประโยชน์ต่อร่างกายมาก นอกจากนี้จะอุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆมากมายแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายของเราด้วย เพราะผักและผลไม้ เป็นอาหารในอาหารหลัก 5 หมู่ แม้ว่าการรับประผักและผลไม้ จะทำให้ร่างกายได้รับวิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหาร

ซึ่งมีคุณสมบัติในการป้องกันโรคและความเสื่อมสภาพของเซลล์ แต่ถ้าจะให้ได้ประโยชน์สูงสุด ควรจะเลือกรับประทานผักและผลไม้ให้ถูกวิธี ซึ่งมีสิ่งที่ควรคำนึงถึง บางคนชอบรับประทานผัก แล้วอาจจะมีความสงสัยว่า ควรรับประทานอย่างไรเพื่อให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วนหรือได้รับประโยชน์มากที่สุด บางคนเลือกรับประทานเป็นบางชนิด โดยที่ไม่รู้เลยว่าได้พลาดประโยชน์ที่ควรได้รับอันมากมายจากผักเหล่านั้น

ตามมาด้วยความเจ็บป่วยและโรคร้ายต่างๆ มากมาย สังเกตได้ง่ายๆ ว่าคนไม่ชอบรับประทานผักมักจะมีปัญหาท้องผูก ผิวพรรณหมองไม่สดใส และเจ็บป่วยได้ง่าย ดังนั้น เราควรหันมาใส่ใจรับประทานผักให้มากขึ้น ซึ่งทางเราจะมาแนะนำวิธีการรับประทานผัก เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดและได้รับสารอาหารแบบครบถ้วนเลยทีเดียว ซึ่งคนที่รักสุขภาพและชื่นชอบในการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพหรือชอบรับประทานผักไม่ควรพลาด


สำหรับผักนั้น หลายคนทราบกันดีอยู่แล้วว่า มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างยิ่ง เพราะมีเส้นใยอาหารช่วยเรื่องการขับถ่าย เป็นแหล่งของวิตามินและเกลือแร่ ช่วยป้องกันและบรรเทาโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ แถมยังช่วยบำรุงผิวพรรณ ซึ่งการรับประทานผักนั้น หลักมีอยู่ 2 วิธี คือ บางคนชอบรับประทานผักที่ผ่านกระบวนการทำให้สุกแล้ว หรือบางคนชอบรับประทานผักสด ซึ่งการปรุงอาหารแต่ละเมนูนั้นมีวัตถุดิบและขั้นตอนต่าง ๆ มากมายในแต่ละครั้ง

ซึ่งองค์ประกอบในการทำอาหารอาจส่งผลต่อสารอาหารในผัก ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบ ความร้อน ไปจนถึงวิธีการปรุง โดยความร้อนและวิธีการปรุงอาหารสามารถเปลี่ยนโครงสร้างและปริมาณของสารอาหารในผัก โดยหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลให้สารอาหารลดลง คือ น้ำและการปรุงด้วยน้ำ โดยเฉพาะในการต้ม เนื่องจากสารอาหารบางชนิดสามารถละลายในน้ำ อย่างวิตามินซีและกลุ่มวิตามินบี

ดังนั้น เมื่อนำผักที่มีสารอาหารเหล่านี้ไปปรุงด้วยวิธีการต้มหรือมีน้ำเป็นส่วนประกอบก็อาจลดปริมาณของวิตามินที่ละลายน้ำได้ถึง 50-60 % แต่ในขณะที่ผลงานวิจัยอีกส่วนหนึ่งชี้ว่า การปรุงสุกด้วยความร้อนอาจช่วยเพิ่มปริมาณของสารแอนติออกซิแดนท์หรือสารต้านอนุมูลอิสระในผักได้ ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระมีสรรพคุณช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ ต้านการอักเสบ ช่วยในเรื่องของผิวพรรณ

อีกทั้งช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังหลายชนิด แต่ผักบางชนิดที่เมื่อผ่านการปรุงสุกจะทำให้มีคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้น เช่น หน่อไม้ฝรั่ง เห็ด ปวยเล้ง มะเขือเทศ แครอท มันฝรั่ง และพืชตระกูลถั่ว ในขณะเดียวกัน การรับประทานผักสด อาจมีสารอาหารบางอย่างสูงกว่าผักที่ปรุงสุกแล้ว

 
โดยเฉพาะวิตามินที่ละลายน้ำ แต่การบริโภคผักสดมีความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อภายในระบบทางเดินอาหารได้สูงกว่าผักที่ปรุงสุกแล้ว โดยอาจมาจากเชื้อโรคตามธรรมชาติ แต่ผักบางชนิดหากรับประทานสดอาจให้ประโยชน์มากกว่า เช่น บร็อคโคลี กะหล่ำปลี หัวหอม กระเทียม พริก และหัวบีท เป็นต้น
แต่ก็ควรล้างผักเหล่านี้อย่างถูกวิธีเพื่อลดความเสี่ยงจากการได้รับเชื้อโรคและสารเคมีอีก อย่างไรก็ตาม การรับประทานผักในความเป็นจริงแล้วอาจไม่จำเป็นต้องเลือกรับประทานอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่สามารถรับประทานผักทั้งสองรูปแบบเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่หลากหลายและครบถ้วน หากต้องการปรุงผักให้สุก ควรเลือกปรุงด้วยการนึ่ง ย่าง หรือผัดแทนการต้มเพื่อลดปริมาณสารอาหารที่อาจเสียไปจากการละลายน้ำ หากต้องการรับประทานผักสด ควรล้างผักด้วยน้ำสะอาดที่ไหลผ่านตลอด และใช้มือลูบผักเบา ๆ เพื่อล้างเชื้อโรคและสารเคมีให้หลุดออกง่ายขึ้น


อย่างไรก็ตาม เราทุกคนควรพยายามรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และรับประทานในแต่ละหมู่ให้มีความหลากหลาย  ไม่จำเจอยู่เพียงอาหารไม่กี่ชนิด  เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารต่างๆ ครบในปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย เราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดี ซึ่งเน้นย้ำมาตลอดให้ทุกคนเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และที่สำคัญควรจะหมั่นออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บด้วย

15
หมอออนไลน์: รากประสาทถูกกด (Spinal nerve root compression) / หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน (Herniated disk)

รากประสาทถูกกด หมายถึง การที่มีสิ่งผิดปกติหรือพยาธิสภาพที่รบกวนหรือกดถูกรากประสาทของเส้นประสาทสันหลัง ถ้าเกิดที่ระดับคอ ทำให้มีอาการปวดร้าว เสียว ๆ แปลบ ๆ หรือรู้สึกชาลงมาที่แขนและมือ (ดู "กระดูกคองอกกดรากประสาท")

ถ้าเกิดที่ระดับเอว ทำให้มีการกดถูกรากประสาทไซแอติก (sciatic nerve) มีอาการปวดหลังร่วมกับอาการปวดร้าว เสียว ๆ แปลบ ๆ หรือรู้สึกชาลงมาที่ขา เรียกว่า อาการปวดตามประสาทขาหรือประสาทไซแอติก (sciatica) ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุได้หลายประการ ที่พบบ่อยได้แก่ หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน (herniated disk) และ โพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ ส่วนสาเหตุอื่นที่พบได้ไม่บ่อยนัก เช่น วัณโรคกระดูกสันหลัง เนื้องอกไขสันหลัง มะเร็งที่แพร่กระจายจากที่อื่น อุบัติเหตุ เป็นต้น

ในที่นี้จะกล่าวเฉพาะหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน และโพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ

สาเหตุ

หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน* พบได้ในช่วงอายุ 20-60 ปี แต่พบได้น้อยมากในคนอายุมากกว่า 60 ปี เกิดจากหมอนรองกระดูกที่เสื่อมตามอายุมีการฉีกขาดของเนื้อเยื่อเส้นใยชั้นเปลือกนอก ปล่อยให้เนื้อเยื่อกระดูกอ่อนตรงกลางซึ่งมีลักษณะคล้ายวุ้นแตก (rupture) หรือเลื่อน (herniation) ออกมากดทับรากประสาท และเกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อรอบ ๆ รากประสาท ทำให้เกิดอาการของโรคนี้ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นโดยไม่มีประวัติการบาดเจ็บชัดเจน อาจเกิดจากแรงกระทบเพียงเล็กน้อยจากการทำกิจวัตรประจำวัน หรือจากอิริยาบถที่ไม่เหมาะสม ส่วนน้อยเกิดหลังจากได้รับบาดเจ็บจากการทำงาน เล่นกีฬา อุบัติเหตุ ยกหรือเข็นของหนัก

ผู้ที่เป็นเบาหวานหรือสูบบุหรี่มีความเสี่ยงต่อโรคนี้มากขึ้น เนื่องจากมีออกซิเจนในเลือดไปเลี้ยงหมอนรองกระดูกน้อยลง จึงเสื่อมได้ง่ายขึ้น ส่วนผู้ที่มีน้ำหนักเกิน หรือทำอาชีพที่ต้องเข็นหรือยกของหนัก ก็เสี่ยงต่อการเกิดแรงกระทบต่อหมอนรองกระดูกทำให้เกิดโรคนี้ได้มากขึ้น

โพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ เริ่มพบได้ตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้นไป และพบมากในคนอายุมากกว่า 60 ปี ส่วนใหญ่เกิดจากกระดูกสันหลังเสื่อมตามอายุ ทำให้ผิวข้อกระดูกสันหลังมีหินปูนหรือปุ่มงอก (osteophytes) เกาะโดยรอบ และมีการหนาตัวของเอ็นรอบ ๆ โพรงกระดูกสันหลัง (spinal canal) ทำให้มีการตีบแคบของโพรงกระดูกสันหลัง ซึ่งค่อย ๆ เกิดขึ้นทีละน้อย ใช้เวลานานเป็นแรมปีหรือหลายปี จนในที่สุดเกิดการกดทับรากประสาทที่แยกออกจากไขสันหลังผ่านโพรงดังกล่าว และบีบรัดหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงรากประสาททำให้เกิดอาการของโรคนี้

*หมอนรองกระดูกสันหลัง (intervertebral disk) เป็นกระดูกอ่อนที่คั่นอยู่ระหว่างข้อต่อของกระดูกสันหลังทุกข้อ ทำหน้าที่ลดแรงกระแทกต่อกระดูกสันหลัง และช่วยให้สันหลังมีความยืดหยุ่นในการเคลื่อนไหว ประกอบด้วยเนื้อเยื่อกระดูกอ่อนลักษณะคล้ายวุ้นอยู่ตรงกลาง (เรียกว่า nucleus propulsus) โดยมีเนื้อเยื่อเส้นใยห่อหุ้มอยู่ชั้นเปลือกนอก (เรียกว่า annulus fibrosus)

เมื่ออายุมากขึ้นปริมาณน้ำภายในหมอนรองกระดูกจะลดลง เมื่ออายุมากกว่า 20 ปี หมอนรองกระดูกก็เริ่มเสื่อมมากขึ้นเรื่อย ๆ และเปราะง่ายขึ้น เมื่อมีแรงกระทบต่อหมอนรองกระดูก เนื้อเยื่อเส้นใยชั้นนอกมีโอกาสฉีกขาด ปล่อยให้เนื้อเยื่อกระดูกอ่อนที่อยู่ตรงกลางแตกหรือเลื่อนออกมาข้างนอก และอาจกดถูกรากประสาทหรือไขสันหลัง แต่เมื่ออายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป เนื้อเยื่อกระดูกอ่อนจะเริ่มแข็งตัว การไหลเลื่อนออกมาข้างนอกเกิดได้น้อยลง ดังนั้น โรคหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนจึงพบได้น้อยในคนอายุมากกว่า 60 ปี

อาการ

หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน ขึ้นกับตำแหน่งของหมอนรองกระดูกที่เคลื่อนและเส้นประสาทที่ถูกกด ส่วนใหญ่พบที่หมอนรองกระดูกบริเวณเอว (พบบ่อยในกลุ่มอายุ 35-45 ปี) ส่วนน้อยพบที่บริเวณคอ (พบบ่อยในกลุ่มอายุ 40-50 ปี) อาจมีอาการเกิดขึ้นฉับพลันรุนแรง หรือค่อย ๆ เกิดขึ้นทีละน้อยก็ได้ ผู้ป่วยบางรายอาจมีประวัติเกิดอาการหลังได้รับบาดเจ็บหรือยกของหนัก แต่ส่วนใหญ่จะไม่ทราบว่ามีเหตุกำเริบจากอะไร

ในรายที่หมอนรองกระดูกสันหลังส่วนเอวเคลื่อน จะมีอาการปวดตรงกระเบนเหน็บ ซึ่งจะปวดร้าว เสียว ๆ แปลบ ๆ และชาจากบริเวณแก้มก้นลงมาถึงน่องหรือปลายเท้า อาการปวดจะเป็นมากขึ้นเวลามีการเคลื่อนไหว เวลาก้ม นั่ง ไอ จาม หัวเราะ หรือเบ่งถ่าย ในรายที่เป็นมากเท้าจะไม่ค่อยมีแรงและชา อาจถ่ายอุจจาระปัสสาวะไม่ได้ หรือกลั้นอุจจาระปัสสาวะไม่อยู่

มักพบเป็นเพียงข้างใดข้างหนึ่งเท่านั้น นอกจากในรายที่เป็นมากอาจมีอาการทั้ง 2 ข้าง

ในรายที่หมอนรองกระดูกสันหลังส่วนคอเคลื่อน จะมีอาการปวดบริเวณต้นคอ ปวดร้าว เสียว ๆ แปลบ ๆ และชาลงมาที่ไหล่ แขน และปลายมือ

มักมีอาการเวลาแหงนคอไปด้านหลัง หรือหันศีรษะไปข้างที่เป็น ถ้าเป็นมากแขนและมืออาจมีอาการอ่อนแรง

โพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ ในระยะแรก ๆ จะไม่มีอาการแสดง อาจตรวจพบโดยบังเอิญจากการถ่ายภาพรังสีกระดูกสันหลัง ต่อเมื่อโพรงกระดูกสันหลังตีบแคบมากขึ้นจนกดทับรากประสาท จึงจะมีอาการปวดหลังและร้าวลงมาที่ขาขณะวิ่ง ยืนนาน ๆ หรือเดินไกล ๆ ในรายที่เป็นมากแม้แต่เดินเพียงไม่กี่ก้าวก็จะรู้สึกปวดน่องจนต้องนั่งพัก หรือหยุดเดินสักครู่ อาการปวดจึงจะทุเลาและสามารถเดินต่อไปได้ แต่ต้องคอยหยุดพักเป็นช่วง ๆ* อาการปวดมักเป็นเพียงข้างเดียว แต่ก็อาจพบเป็นทั้ง 2 ข้าง

อาการปวดมักจะทุเลาเวลานั่งหรือก้มตัวไปข้างหน้า หรือขณะเดินขึ้นเนินหรือที่ลาด (ในท่าโน้มหรือก้มตัวไปข้างหน้า ทำให้โพรงกระดูกสันหลังขยาย ลดการกดรากประสาท แต่ในท่าแอ่นตัวไปข้างหลัง เช่น ยืนแอ่นตัวเดินลงเนินหรือที่ลาดจะทำให้โพรงกระดูกสันหลังตีบแคบมากขึ้น)

บางรายอาจมีอาการเป็นตะคริวที่ขาตอนกลางคืนร่วมด้วย

ในรายที่เป็นมาก มักมีอาการเสียว ๆ แปลบ ๆ และชาจากแก้มก้นลงมาที่น่องหรือปลายเท้า เท้าอ่อนแรง ควบคุมการขับถ่ายไม่ได้ และอาจมีอาการเดินโคลงเคลง ทรงตัวผิดปกติ

*อาการปวดขาในลักษณะดังกล่าว คล้ายอาการปวดขาเป็นระยะจากการขาดเลือด (intermittent claudication) ซึ่งพบในผู้ป่วยที่เป็นโรคหลอดเลือดแดงขาตีบ เช่น ผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดผิดปกติ ผู้สูงอายุ ซึ่งมักจะคลำพบชีพจรหลังเท้าเต้นเบากว่าปกติ ส่วนอาการปวดน่องเวลาเดินที่พบในโรคโพรงกระดูกสันหลังตีบแคบไม่ได้เกิดจากหลอดเลือดแดงขาตีบ เพียงแต่แสดงอาการคล้ายกัน จึงเรียกว่า "Pseudoclaudication" หรือ "Neurogenic intermittent claudication"

ภาวะแทรกซ้อน
ถ้าปล่อยให้รากประสาทถูกกดรุนแรงอาจทำให้ขาชา เป็นแผลติดเชื้อง่าย กล้ามเนื้อขาลีบ ขาอ่อนแรง เดินลำบาก ถ่ายอุจจาระปัสสาวะไม่ได้ หรือกลั้นอุจจาระปัสสาวะไม่ได้

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ ดังนี้

ในรายที่มีการกดรากประสาทขาหรือประสาทไซแอติก สามารถทำการตรวจวินิจฉัยโดย

1. ให้ผู้ป่วยนอนหงาย แล้วจับเท้าข้างที่สงสัยค่อย ๆ ยกขึ้นโดยให้หัวเข่าเหยียดตรง จะพบว่าผู้ป่วยไม่สามารถยกเท้าเหยียดตรงได้ 90 องศาเช่นคนปกติ หรือได้น้อยกว่าเท้าอีกข้างหนึ่ง เพราะรู้สึกปวดเสียวตามหลังเท้าจนทนไม่ได้ วิธีนี้เรียกว่าการทดสอบเหยียดขาตรงตั้งฉาก (straight leg raising test/SLRT)

2. ใช้เข็มจิ้มเบา ๆ ที่หลังเท้าและน่อง ในรายที่เป็นมากจะรู้สึกเจ็บน้อยกว่าอีกข้างหนึ่ง

3. ให้ผู้ป่วยออกแรงเหยียดหัวแม่เท้าขึ้นต้านแรงกดของนิ้วมือผู้ตรวจ ในรายที่เป็นมากจะพบว่ามีแรงอ่อนกว่าหัวแม่เท้าข้างที่ปกติ

4. การตรวจรีเฟล็กซ์ของข้อเข่าและข้อเท้า (tendon reflex) จะพบว่าน้อยกว่าปกติ

ในรายที่มีการกดทับรากประสาทในบริเวณคอ ในระยะแรกอาจตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติชัดเจน ในระยะที่เป็นมากอาจพบกล้ามเนื้อแขนมีอาการชาและอ่อนแรง รีเฟล็กซ์ของข้อศอกและข้อมือน้อยกว่าปกติ

สำหรับโพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ ในระยะแรกมักตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติชัดเจน

ผู้ป่วยส่วนน้อยที่การทดสอบเหยียดขาตรงตั้งฉากพบว่าผิดปกติ

ในรายที่เป็นมากแล้ว ก็อาจตรวจพบอาการชาที่หลังเท้าและน่อง รีเฟล็กซ์ของข้อเข่าและข้อเท้าน้อยกว่าปกติ หัวแม่เท้าอ่อนแรง

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการเอกซเรย์กระดูกสันหลัง ถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) ถ้าจำเป็นอาจต้องทำการถ่ายภาพรังสีไขสันหลังโดยการฉีดสารทึบรังสี (myelography)

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้             

ในระยะแรก แพทย์จะให้การรักษาโดยวิธีไม่ผ่าตัดก่อน ได้แก่ การให้ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (เช่น ไอบูโพรเฟน, ไดโคลฟีแนก, นาโพรเซน) เป็นหลัก ซึ่งนอกจากช่วยบรรเทาปวดแล้ว ยังลดการอักเสบของเนื้อเยื่อรอบ ๆ รากประสาท ทำให้อาการทุเลาได้

ในรายที่มีอาการเกิดขึ้นฉับพลันและปวดรุนแรง แพทย์จะแนะนำให้ผู้ป่วยนอนพักในท่านอนหงายบนที่นอนแข็งตลอดเวลา (ลุกเฉพาะกินอาหารและเข้าห้องน้ำ) 1-2 วัน จะช่วยให้อาการทุเลาได้เร็ว ไม่ควรนอนติดต่อนานหลายวัน อาจทำให้กล้ามเนื้อหลังอ่อนแอ

บางรายแพทย์อาจให้การรักษาทางกายภาพบำบัด (เช่น ประคบด้วยความเย็นและความร้อน ใช้น้ำหนักถ่วงดึง) กระตุ้นปลายประสาทด้วยไฟฟ้า (TENS) การฝังเข็ม เป็นต้น

บางรายแพทย์อาจให้ผู้ป่วยใส่ "เสื้อเหล็ก" หรือ "ปลอกคอ"

ในรายที่มีอาการปวดมาก และไม่สามารถบรรเทาด้วยยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์และยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล แพทย์อาจพิจารณาให้ยาแก้ปวดที่แรงขึ้น เช่น โคเดอีน (codeine) กาบาเพนทิน (gabapentin) เป็นต้น บางรายอาจให้เพร็ดนิโซโลน หรือฉีดสเตียรอยด์เข้าบริเวณเนื้อเยื่อรอบ ๆ รากประสาทที่อักเสบเพื่อลดการอักเสบ

ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงอิริยาบถและกิจกรรมที่ทำให้อาการปวดกำเริบ บริหารกล้ามเนื้อหลังและหน้าท้องตามคำแนะนำของแพทย์ ลดน้ำหนักถ้าน้ำหนักเกิน

ผลการรักษา ส่วนใหญ่มักจะหายปวดและกลับไปดำเนินชีวิตได้ตามปกติ

สำหรับหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนที่ไม่รุนแรง อาการมักจะดีขึ้นภายใน 4-6 สัปดาห์ เนื่องจากหมอนรองกระดูกที่ไหลเลื่อนออกมาข้างนอก มักจะยุบตัวลงจนลดแรงกดต่อรากประสาทไปได้เอง

ในรายที่ให้การรักษาด้วยยาและกายภาพบำบัด 3-6 เดือนแล้วไม่ได้ผล ไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ หรือมีภาวะแทรกซ้อน (เช่น กล้ามเนื้อลีบหรืออ่อนแรง มีอาการชามาก ควบคุมการขับถ่ายไม่ได้) ก็อาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัด เพื่อปลดเปลื้องการกดรากประสาท และอาจเชื่อมข้อต่อกระดูกสันหลังให้แข็งแรงในรายที่มีการเลื่อนของกระดูกสันหลัง (spondylolisthesis) การผ่าตัดมีอยู่หลายวิธี รวมทั้งวิธีใช้กล้องส่อง (laparoscopic surgery)

สำหรับโพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ ในปัจจุบันมีวิธีผ่าตัดขยายโพรงกระดูกสันหลังโดยการส่องกล้องจุลทรรศน์ (microlumbar decompression) ซึ่งได้ผลดีและมีความปลอดภัยมากขึ้น

โดยทั่วไปผู้ป่วยที่จำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัดมีประมาณร้อยละ 10-20 ซึ่งส่วนใหญ่มักจะได้ผลดี แต่มีประมาณร้อยละ 10 ที่อาจมีอาการปวดเรื้อรังต่อไป ในรายที่เกิดภาวะแทรกซ้อนอยู่นานก่อนผ่าตัด อาการก็อาจไม่ดีขึ้นหลังผ่าตัด

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการปวดหลังร่วมกับปวดร้าวลงขาแบบเสียว ๆ ชา หรือมีอาการปวดน่องเวลาเดินไปสักพัก จนต้องหยุดเดินเป็นพัก ๆ ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นรากประสาทถูกกด หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน หรือโพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    หลีกเลี่ยงอิริยาบถและกิจกรรมที่ทำให้อาการปวดกำเริบ ปรับท่าทางในการทำงานและการขับรถให้เหมาะสม
    หมั่นบริหารกล้ามเนื้อหลังและหน้าท้องให้แข็งแรงด้วยท่าบริหารที่แพทย์แนะนำ
    ลดน้ำหนัก
    ขณะที่มีอาการปวดให้นอนหงายบนที่นอนแข็ง กินยาบรรเทาปวด และใช้น้ำอุ่นจัด ๆ ประคบ
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน ถ้ากินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา (เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายอุจจาระดำ ท้องเดิน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ) ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด

การป้องกัน

1. หมั่นออกกำลังกาย (เดินเร็ว วิ่งเหยาะ ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน) และบริหารกล้ามเนื้อหลังและหน้าท้องให้แข็งแรง

2. ระวังรักษาอิริยาบถ (ท่านอน ท่านั่ง ท่ายืน ท่ายกของ) ให้ถูกต้อง

3. หลีกเลี่ยงการยกของหนัก เข็นของหนัก การนอนที่นอนที่นุ่มเกินไป

4. ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

5. ไม่สูบบุหรี่ (อาจทำให้หมอนรองกระดูกเสื่อมเร็ว)

ข้อแนะนำ

1. หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนและโพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ มีอาการปวดหลังและปวดร้าวลงมาที่ขาเหมือนกัน ต่างกันที่อันแรกจะพบในกลุ่มคนที่อายุน้อยกว่า และมักจะปวดมากขึ้นเวลาก้มหรือนั่ง แต่อันหลังมักจะพบในผู้สูงอายุ มีอาการปวดน่องเป็นระยะเวลาเดิน และมักจะทุเลาปวดเวลาก้มหรือนั่ง การวินิจฉัยที่แน่ชัดต้องอาศัยการถ่ายภาพด้วยรังสีหรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 โรคนี้มีแนวทางการรักษาเหมือนกัน และส่วนใหญ่สามารถรักษาได้ด้วยวิธีไม่ผ่าตัด

2. ทั้ง 2 โรคนี้ถ้าเป็นในระยะแรกเริ่มและไม่รุนแรง การใช้ยาบรรเทาปวดและลดอักเสบ หลีกเลี่ยงอิริยาบถและกิจกรรมที่ทำให้อาการกำเริบ อาการก็มักจะหายได้ภายใน 4-6 สัปดาห์

3. ผู้ป่วยที่มีอาการแขนหรือขาชาและอ่อนแรง 1-2 ข้าง ซึ่งมีอาการค่อย ๆ เป็นมากขึ้นทีละน้อย (อาจมีอาการปวดคอหรือหลังร่วมด้วยหรือไม่ก็ได้) ในเวลาเป็นสัปดาห์ ๆ หรือแรมเดือน ควรตรวจสาเหตุด้วยการถ่ายภาพรังสีหรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า อาจเกิดจากเนื้องอกไขสันหลัง หรือมีก้อนมะเร็ง เช่น มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งปอดหรือมะเร็งเต้านมแพร่กระจายไปกดถูกเส้นประสาทสันหลังก็ได้

หน้า: [1] 2 3 ... 11
ลงประกาศฟรี ติดอันดับ google โพสต์ฟรี ลงโฆษณาฟรี ขายบ้าน ขายที่ดิน ขายคอนโด ขายรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าอุตสาหกรรม อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ สถานที่ท่องเที่ยว วัตถุดิบทางการเกษตร ขายปลีก -ขายส่ง ลงโฆษณาฟรี ติดอันดับ Google